โกลเบล็ก มอง SET มีโอกาสหลุด 1,200 จุด แนะลงทุนหุ้น Defensive-ปันผลสูง

บล.โกลเบล็ก ชี้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสหลุด 1,200 จุด จากปัจจัยลบสงครามสหรัฐ-อิหร่าน ไวรัสโควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้น Defensive – หุ้น High Dividend-หุ้นได้ประโยชน์หากกนง.ลดดอกเบี้ย ส่วนราคาทองคำ ทำนิวไฮต่อเนื่อง  1,675-1,720 

นางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS )  ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากซาอุฯ เปิดฉากสงครามราคาน้ำมัน ส่งผลเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน  ฉุดดัชนีลงมาต่ำสุด 1,255.94 จุด ถือเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับจากวันที่ 7 ม.ค. 2559 ที่ดัชนี SET ปิดต่ำสุดที่ระดับ 1,224.83 จุด

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังกดดันตลาดต่อเนื่อง และการรายงานตัวเลขการส่งออกของประเทศจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 17.2% ขาดดุลการค้า 7.09 พันล้านดอลลาร์ สวนทางคาดเกินดุลการค้า 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ ยิ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง

คาดการณ์การเคลื่อนไหวของไว้ในกรอบ 1,220-1,280 จุด และมีโอกาสที่จะปรับตัวหลุด 1,200 จุดได้ หากสถานการณ์ต่าง ๆ เลวร้ายลงกว่าเดิม

สำหรับการประชุมคุณรัฐมนตรี (ครม.)ในวันนี้ (10 มี.ค.) จะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงต้องจับตาต่อไปว่าจะมีมาตรการอะไรที่มีผลเชิงบวกกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้มากน้อยระดับไหน

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำทยอยสะสมหุ้น Defensive เช่น RATCH, TTW, ADVANC และ CHG หุ้น High Dividend Yield เช่น KKP, TISCO และ INTUCH และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเก็งกำไรว่ากนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ เช่น BAM, MTC, BFIT และ AMANAH สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานแนะนำ “Wait & See” โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลงเรียงลำดับมากไปน้อย ได้แก่ PTTEP, PTTGC PTT, TOP และ SPRC

ส่วนราคาทองคำ นักลงทุนหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม มองกรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,675-1,720 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 24,860-25,600 บาทต่อบาททองคำ