ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 1,173 จุด

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 4.53% รับเฟด-ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ลดดอกเบี้ย “โจ ไบเดน” อาจจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ มีนโยบายที่จะส่งผลดีต่อตลาด มากกว่า”เบอร์นี แซนเดอร์ส”  IMF จัดเงินช่วยเหลือ ธนาคารโลกตั้งกองทุนสู้ไวรัส ส่วนราคาน้ำมันดิบลดลง 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 4 มีนาคม 2563 ที่ 27,090.86 จุด เพิ่มขึ้น 1,173.45 จุด หรือ 4.53% นักลงทุนขานรับการลดอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการที่นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,130.12 จุด เพิ่มขึ้น 126.75 จุด, +4.22%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,018.09 จุด เพิ่มขึ้น 334.00 จุด, +3.85%

นายไบเดน มีแนวโน้มที่จะชนะในการเลือกตั้ง แบบไพรมารีของพรรคเดโมแครต เพื่อเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทนพรรค เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้นักลงทุนขานรับเพราะมองว่า นายไบเดน มีนโยบายที่จะมีผลดีต่อตลาด มากกว่านายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ ที่มีแนวโน้มใช้นโยบายที่อาจจะสร้างผลกระทบต่อหลายภาคธุรกิจ

แนวโน้มที่นายไบเดนจะชนะ ส่งผลดีต่อกลุ่มเฮลท์แคร์ ให้ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนมองว่า นายไบเดน อาจนำกฎหมายประกันสุขภาพ Affordable Care Act กลับมาใช้อีกครั้ง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศวงเงินช่วยเหลือ 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจโลก จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวต่ำกว่า 2.9% ในปี 2019

ส่วนธนาคารโลกตั้งกองทุนฉุกเฉิน 12,000 ล้านดอลลลาร์ และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯอนุมัติงบ 8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้จัดการกับการระบาดของไวรัส ขณะที่ลอสแองเจลิส ประกาศภาวะฉุกเฉิน

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผย ดัชนีภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนเดียวกันของปีก่อน จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค.

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เผย การจ้างงานของภาคเอกชนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง สูงกว่า155,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ บริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ เพิ่มขึ้น 10.7%

หุ้นเอทีแอนด์ที บริษัทสื่อสารรายใหญ่เพิ่มขึ้น 5.2% หลังจากประกาศแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มสาธารณโภคที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% นักลงทุนขานรับการลดดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน 0.50% ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และคาดว่าธนาคารกลางประเทศอื่นจะปรับลดดอกเบี้ยตาม

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) โดยรวม ยูโรโซนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 51.6 1.2% แต่ผลสำรวจพบว่าความต้องการส่งออกลดลงและการขาดตอนของห่วงโซ่การผลิตเพิ่มมีผลกระทบ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,815.59จุด เพิ่มขึ้น 97.39 จุด, +1.45%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 386.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.17 จุด,+1.36%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,464.89 จุด เพิ่มขึ้น 71.72 จุด,+1.33%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,127.69 จุด เพิ่มขึ้น 142.30 จุด, +1.19%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 40 เซนต์ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 73 เซนต์ปิดที่ 51.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล