GRAMMY ปี 62 กำไรทะยานแตะ 342 ลบ. ปันผลเพิ่ม 0.20 บาท

HoonSmart.com>> “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” อวดกำไรปี 62 จำนวน 342 ล้านบาท เติบโตจากงวดปีก่อน 2,180% กำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 36% เป็น 39% บริหารต้นทุนได้ดี ธุรกิจเพลง รายได้หลักยังเพิ่ม ภาพยนตร์เติบโต บอร์ดอนุมัติปันผลเพิ่ม 0.20 บาท

บุษบา ดาวเรือง

น.ส.บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม GRAMMY เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า/บริการและค่าลิขสิทธิ์ จำนวน 6,602 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่ความสามารถในการบริหารต้นทุนดีกว่าปีเก่ามาก โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 36% ในปีก่อน มาเป็น 39% ในปีนี้ ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย และกิจการร่วมค้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ร่วมกับการให้ความสำคัญของการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสูงถึง 342 ล้านบาท

ในขณะที่ภาระหนี้สินของบริษัทก็ลดต่ำลงมาก ปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.24 เท่า ในการนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติที่จะเสนอการจัดสรรผลกำไรเพื่อจ่ายเงินปันผลในอัตราเกือบ 90% ของกำไรสุทธิประจำปี เพื่อตอบแทนการลงทุนของผู้ถือหุ้นของบริษัท

สำหรับความสำเร็จของกลุ่ม GRAMMY ในปีที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้ ธุรกิจเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท รายได้รวมจากธุรกิจเพลงในปี 2562 เท่ากับ 4,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนและคิดเป็นสัดส่วน 61% ของรายได้จากการขายสินค้า การให้บริการ และค่าลิขสิทธิ์ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของธุรกิจโชว์บิซ ธุรกิจดิจิทัลมิวสิคและธุรกิจการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์

กลุ่มธุรกิจเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพที่ตรงใจผู้ชม ประกอบกับกลยุทธ์การจัดวางผังรายการที่มีความหลากหลาย เพื่อก้าวสู่ความเป็น National Television เข้าถึงผู้ชมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตลอดปีที่ผ่านมาละคร “ช่องวัน31” ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในแง่ของเรตติ้งและกระแสโซเชียล

กลุ่มธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ประกอบด้วยดิจิทัลทีวีช่องจีเอ็มเอ็ม25 ธุรกิจสื่อวิทยุและโชว์บิซและธุรกิจผู้ผลิตคอนเทนต์ โดยในปีที่ผ่านมาช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีทั้งละครและซีรีส์ ที่ได้รับความนิยม

ธุรกิจเทรดดิ้ง ประกอบด้วยธุรกิจซื้อขายสินค้าโฮม ช้อปปิ้งภายใต้ชื่อ “โอ ช้อปปิ้ง” และธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “จีเอ็มเอ็ม แซท” โดยในปี 2562 ธุรกิจกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม “จีเอ็มเอ็ม แซท” มีรายได้ 280 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 16% จากปีก่อน ส่วนธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง รายได้ 1,694 ล้านบาท ลดลง 27% จากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวส่งผลให้มูลค่าตลาดโฮมช้อปปิ้งเติบโตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

ธุรกิจภาพยนตร์ ในปี 2562 มีรายได้รวมทั้งหมดจากธุรกิจภาพยนตร์ในปีนี้เท่ากับ 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11%

ส่วนกำไรขั้นต้นในปีนี้เท่ากับ 2,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปี 2561 คิดเป็นสัดส่วน 39% ของรายได้รวมจากการขายสินค้า การให้บริการและค่าลิขสิทธิ์ ในขณะที่ปีก่อนมีสัดส่วนอยู่ที่ 36% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 2,118 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อนที่มีจำนวน 2,214 ล้านบาท เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลงถึง 19% จากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 1% ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2562 เท่ากับ 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 326 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท เติบโต 2,180%

ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2563 อนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 164 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับที่จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท หรือประมาณ 82 ล้านบาท หมายความว่า GRAMMY มีแผนเสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 90% ของกำไรสุทธิประจำปี 2562 หรือคิดเป็นหุ้นละ 0.30 บาท

ทั้งนี้การเสนอจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 28 เมษายน 2563 โดย GRAMMY จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 และที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2562 (Record Date) ในวันที่ 19 มีนาคม 2563