HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย เปิดขายกองทุนรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 รอบใหม่ 2-6 มี.ค.นี้ ลงทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 0.80% ต่อปี
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) อยู่ระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนรอบใหม่ คือ กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 ( KTSIV3M3) รหัสกองทุน คือ K 9 H ตั้งแต่วันที่ 2-6 มีนาคม 2563 อายุโครงการประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐ เงินฝาก / ตราสารหนี้ธนาคารพาณิชย์ และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย มีระดับความเสี่ยงของกองทุนที่ระดับ 4 คือ ปานกลางค่อนข้างต่ำ ผลตอบแทนของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 0.80% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับไม่เสียภาษี ยกเว้นนิติบุคคลต่างประเทศที่ไม่ประกอบกิจการในประเทศไทย
สำหรับตราสารที่คาดว่าจะลงทุน คือ (1) ตั๋วแลกเงิน บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 9 % ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 0.13% ต่อปี (2) ตั๋วแลกเงิน บริษัท เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 9 % ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 0.12% ต่อปี (3) หุ้นกู้ระยะสั้น บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 9 % ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 0.12% ต่อปี (4) ตั๋วแลกเงิน บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด ในสัดส่วน 9 % ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 0.14% ต่อปี และ (4) พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนประมาณ 64% ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 0.60% ต่อปี (ที่มาของข้อมูล: ข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์และผู้ค้าตราสารหนี้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563) และเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
อนึ่ง ทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่สำนักงานฯ อนุญาตให้ลงทุนได้ภายใต้กรอบการลงทุนของ บลจ. กรุงไทย ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ประมาณการไว้
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ 14-21 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อจากกระแส Risk off หลัง GDP 4Q62 ออกมาที่ 1.6% yoy ซึ่งต่ำสุดในรอบ 21 ไตรมาส และ สศช. ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2563 ลงมาสู่ระดับ 1.5%-2.5% จากเดิมที่คาด 2.7%-3.7% สลับกับแรงขายทำกำไรและแรงซื้อกลับหลังตลาดกลับมามีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19
สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 2,167 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps. มาอยู่ที่ 0.85% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 12 bps. มาอยู่ที่ 0.91% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 13 bps. มาอยู่ที่ 1.08% ต่อปี
ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อเพื่อลดความเสี่ยงตามกระแส Risk Off จากความกังวลเรื่องการระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่ปัจจุบันมีการกระจายไปทั่วโลกและส่งผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยว ไอที และอีกหลายอุตสาหกรรม โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 8 bps. มาอยู่ที่ 1.34% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 12 bps. มาอยู่ที่ 1.30% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 13 bps. มาอยู่ที่ 1.46% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง