ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 350 จุด หวั่นเศรษฐกิจถดถอย

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ลงต่อติดต่อกันวันที่ 7  หนีหุ้นไปซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงต่ำกว่า 1.15% เป็นครั้งแรก  เฟดช่วยงัดตลาดพ้นจากจุดต่ำสุดของวัน ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน WTI  ลดลง 2.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.76 ดอลลาร์ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ 25,409.36 จุด ลดลง 357.28 จุด หรือ 1.39% ลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แต่พ้นจากจุดต่ำสุดของวัน และนับเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากสุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008 ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกชะงัก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,954.22 จุด ลดลง 24.54 จุด, -0.82%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,567.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด, +0.01%

จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 83,861 ราย ผู้เสียชีวิต 2,867 ราย เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นมากกว่า 2,300 ราย เป็นประเทศที่ไม่ใช่จีนที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก ส่วนในอิตาลีมีผู้ติดเชื้อกว่า 600 ราย อีกทั้งมีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศอื่นเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนิวซีแลนด์ ไนจีเรีย ทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวนานและถดถอย ขณะที่ธุรกิจหลายแห่งออกมาเตือนว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อผลการดำเนินงาน

นอกจากนี้หลายประเทศยกระดับมาตรการให้เข้มงวดขึ้นจากการการระบาดของไวรัสโควิด-19 และองค์การอนามัยโลกยกระดับความเสี่ยงจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สู่ระดับที่สูงมาก

นักลงทุนลดความเสี่ยงหันไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงไปต่ำกว่า 1.15% เป็นครั้งแรก

ตลาดกลับมาฟื้นตัวหลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารแถลงสั้นๆว่า เฟดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอจากจีนจะกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้คาดกันว่าเฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

กระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.1%จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้น 1.7% จากปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.2% รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.6%

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 100 จาก 99.8 เดือนมกราคม

หุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์ อิ้งค์ ลดลง 7.12%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงมากกว่า 10% ในรอบสัปดาห์ นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่ลดลง 4.6% จากความวิตกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายออกไป โดยมีการพบผู้ติดเชื้อในอาเซอร์ไบจัน เบลารุส ลิธัวเนีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ไนจีเรียและอัฟริกา

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,580.61 จุด ลดลง 215.79 จุด,-3.18%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 375.65 จุด ลดลง 13.8 จุด,-3.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,309.90 จุด ลดลง 185.7 จุด, -3.38%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,890.35 จุด ลดลง 477.11 จุด, -3.86%

หุ้น IAG บริษัทแม่ของบริติแอร์เวย์ส ลดลงราว 9% หลังเตือนว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบผลการดำเนินงาน

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 2.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล