HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ตลาด ดิ่งลงกว่า 4% เป็นการลดลงต่อเนื่อง 6 วันส่งผลให้ตลาดเข้าสู่เขตปรับฐาน(correction territory) ลดลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดครั้งก่อน กังวลการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักงัน ในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องเฝ้าระวังถึง 8,400 คน ราคาน้ำมันลงต่อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2563 ที่ 25,766.64 จุด ลดลง 1,190.95 จุด หรือ 4.42% จากแรงเทขาย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายออกไปประเทศอื่นๆทั่วโลก ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าในจีน อาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักงันต่อเนื่อง
ในสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนียมีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกโดยไม่ทราบต้นตอ เพราะไม่มีประวัติเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อรายอื่น ทำให้ต้องมีคนที่ต้องเฝ้าระวังถึง 8,400 คน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,978.76 จุด ลดลง 137.63 จุด, -4.42%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,566.48 จุด ลดลง 414.29 จุด, -4.61%
การลดลงต่อเนื่อง 6 วันส่งผลให้ตลาดเข้าสู่เขตปรับฐาน (correction territory) ลดลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดครั้งก่อน นับตั้งแต่การลดลงติดต่อกันสองวันในวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2008 ช่วงที่โลกประสบกับวิกฤติการเงิน
ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 12% จากระดับสูงสุดในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และเป็นการเข้าสู่เขตปรับฐานในเวลา 6 วันเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์จากเดิมที่เข้าสู่เขตปรับฐานในเวลา 9 วัน ในปี 2018
นักวิเคราะห์ยังคงเกาะติดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสคิด-19 โดยโกลด์แมน แซคส์ประเมินว่าปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนจะไม่เติบโต
กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขประมาณการการขยายตัวของ GDP ครั้งที่ 2 ไตรมาส 4 ปี 2019 ที่ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด แต่ตลาดไม่ขานรับ
กระทรวงแรงงานเผยการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 219,000 ราย สูงกว่า 212,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 5.2% จากเดือนก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
ขณะที่นักลงทุนรอดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้
หุ้นไมโครซอฟต์ลดลงมากสุด 7.05% หลังเตือนว่ารายได้ธุรกิจเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ซึ่งมีสัดส่วน 36% ของรายได้รวมจะพลาดเป้า เป็นผลจากห่วงโซ่การผลิตที่ชะงัก
หุ้นแอปเปิลดลง 6.54% หุ้นอินเทลลดลง 6.4% หุ้น Nvidiaลดลง 5.5%
หุ้นเอ็กซอน โมบิลลดลง 6.02% หุ้นเชฟรอนลดลง 4%
หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 7.6% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ลดลง 2.4% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ลดลง 2.9% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ลดลง 4.6%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงแรง โดยดัชนี Stoxx 600 เข้าสู่เขตปรับฐาน(correction territory) หลังจากลดลงมากกว่า 10%จากระดับสูงสุดในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่ดัชนีอื่นต่างปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 81,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,700 ราย ขณะที่มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกของเอเสโธเนียและเดนมารก์ ส่วนอังกฤษพบเพิ่มเติมอีก 2 ราย
ดัชนีความเศรษฐกิจเดือนกุมภาพันธ์ยูโรโซฯเพิ่มขึ้นมาที่ 103.5 จาก 102.6 ในเดือนมกราคม สูงกว่า 102.2 ที่นักวิเคราะห์คาด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นติดลบเพียง 6.6 จากที่ติดลบ 8.1 ส่วนสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไม่ขยับจากเดือนก่อน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.40 จุด ลดลง 246.07 จุด,-3.49%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 389.45 จุด ลดลง 15.17 จุด,-3.75%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,495.60 จุด ลดลง 188.95 จุด, -3.32%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,367.46 จุด ลดลง 407.42 จุด, -3.19%
หุ้นสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดลดลงราว 4% แม้กำไรเพิ่มขึ้น 46% แต่เตือนว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีกระทบต่อเป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากกองทุนที่แท้จริง หรือROTE (return on tangible equity)
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล