HoonSmart.com>> “เถ้าแก่น้อย” ปี 62 กำไร 366 ล้านบาท ร่วง 20% รายได้จากการขายลดลงในตลาดจีน ด้านค้าใช้จ่ายเพิ่มหลังตั้งสำรองด้อยสินทรัพย์หลังปิดสายการผลิตสาหร่ายอบที่สหรัฐฯ และปิดสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ 4 สาขา บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.15 บาท ขึ้น XD 9 มี.ค.นี้ จ่ายเงิน 30 พ.ค.63
บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟ๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 กำไรสุทธิ 366.24 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.26 บาท ลดลง 20.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 459.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.33 บาท
สำหรับงวดไตรมาส 4/2562 กำไรสุทธิ 117.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 376.8% จากงวดปีก่อน โดยบริษัทมีรายได้จากการขายจำนวน 1,416.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากงวดปีก่อนและเพิ่มขึ้น 11.8% จากไตรมาส 3/2562 ส่งผลให้ทั้งปีมีจำนวน 5,266.8 ล้านบาท แต่ยังคงลดลง 3% จากปี 2561
ด้านตลาดในประเทศรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 4% จากงวดปีก่อน แต่ลดลง 5.8% จากไตรมาส 3/2562 และมียอดขายทั้งปีรวม 2,120.1 ล้านบาท เติบโต 2.9% จากปีก่อน โดยยังรักษาส่วนแบ่งการตลาด 69% ในกลุ่มขนมขบเคี้ยวสาหร่าย ประกอบกับการรุกธุรกิจร้านข้าวแกงกะหรี่จากญี่ปุ่นและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งขยายตัว 4% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดต่างประเทศมีรายได้จากการขายลดลง 0.6% จากปีก่อน
สำหรับกำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2562 มีจำนวน 432.7 ล้านบาท คิดเป็น 30.5% ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่ม 4.1% จากงวดปีก่อนและเพิ่มม 3.6% จากไตรมาส 3/2562 สาเหตุหลักจากการเพิ่มสัดส่วนการใช้สาหร่ายฤดูกาลใหม่มีต้นทุนลดลงและอัตราการใช้กำลังผลิตสูงขึ้นสัมพันธ์กับยอดขายจีนในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ส่งผลให้ทั้งปีกำไรขั้นต้นรวม 1,480.3 ล้านบาท คิดเป็น 28.1% ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีที่ผ่านมา
ด้านต้นทุนจัดจำหน่ายลดลง 1.9% เหลือ 212.5 ล้านบาท เนื่องจากบริหารงบประมาณการตลาดให้สัมพันธ์กับยอดขาย รวมทั้งสัดส่วนยอดขายต่างประเทศปรับตัวขึ้น โดยเฉลี่ยตลาดต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดต่ำกว่าตลาดในประเทศ แต่รวมทั้งปีต้นทุนจัดจำหน่ายมีจำนวน 768.1 ล้านบาท เพิ่ม 2.2%
ด้านค้าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวน 120.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากงวดปีก่อนและเพิ่ม 2.8% จากไตรมาส 3/2562 เนื่องจากการตั้งค่าสำรองด้อยค่าสินทรัพย์จากการปิดสายการผลิตสาหร่ายอบที่สหรัฐฯ 26 ล้านบาท และปิดสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ 4 สาขา รวม 4 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีมีค่าใช้จ่ายบริหารรวม 343.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากปีที่ผ่านมา
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2563 อนุมัติจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2562 – 31 ธ.ค. 2562 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 10 มี.ค.2563 ขึ้น XD วันที่ 9 มี.ค. 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 พ.ค. 2563