โบรกฯ ลุ้นหุ้นรีบาวด์ตลาดซึมซับโควิด-19

HoonSmart.com>> โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ตามสัญญาณทางเทคนิค หลังปรับตัวแรงกว่าคาด มองตลาดซึมซับข่าวโควิด-19

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาด SET INDEX มีโอกาสเกิดเทคนิเคิล รีบาวด์ หลังจากดัชนีปรับตัวลงแรงมากเกินไป โดยมีแนวต้าน 1,440-1,445 จุด สัญญาณชี้นำคือ ราคาทองคำ เริ่มย่อตัวลงเช้านี้ สะท้อนว่า เริ่มมีแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัย และอาจโยกย้ายกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงบ้าง

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET Index ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังเป็นลบจาก COVID-19 แต่คาดว่าจะสามารถเกิด Technical Rebound ระยะสั้นจากดัชนีที่ปรับตัวลงแรงกว่า 100 จุดในระยะกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาและเริ่มเข้าเขต Oversold โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,415-1,440 จุด

อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยอาจเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในช่วง 1H20 เรายังประเมินว่าหุ้นในกลุ่ม Defensive และ Dividend Play อย่างกลุ่มสื่อสารฯ โรงพยาบาล PF&REIT จะปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด

กลยุทธ์ เน้นพักเงินในหุ้น Defensive และจ่ายปันผลสูง//เก็งกำไรคาดหวังการรีบาวด์จากระดับ 1,400-1,420 จุด

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index วันนี้น่าจะมีรีบาวด์บ้าง หลังเมื่อวานดัชนีฯ ร่วงหนักกว่าที่ประเมิน แต่ภาพรวมยังมีความเสี่ยงต่อการพลิกมาลบอีก ตามความกังวลต่อการติดเชื้อไวรัส Covid-19 นอกประเทศจีนโดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิตาลี และอิหร่าน โดยจิตวิทยาการซื้อขายในวันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ของวันนี้ ซึ่งจะรายงานออกมาระหว่างวัน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเช่นเดิมและไม่น่าจะเป็นโฟกัสของตลาดแล้ว

ทั้งนี้ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ยกระดับขึ้นมาก ได้กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมทั้งตลาดน้ำมันเมื่อคืน และน่าจะส่งผลให้หุ้นพลังงานยังกดดัน SET อยู่ ทั้งนี้การร่วงหนัก 3.98% ของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานส่งผลให้ตัวเลข earnings yield gap (EYG) ปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ 5.7% (สมมติฐาน EPS ปีนี้ 96.0 จุด และบอนด์ยิลด์ 10 ปีที่ 1.0%) ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากแล้ว

อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ มองว่า EPS ของ บจ.ไทยจะถูกปรับลดลงอีกในอนาคตอันใกล้นี้ เราจึงแบ่งการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางลงของดัชนีฯ กรณีต่างๆ ดังนี้

กรณีปกติ: คาดว่า EPS ปี 2563 ลดลงจาก 96.0 เหลือ 92.5 ประเมินความเสี่ยงทางลงของดัชนีฯ ด้วยค่าEYG ที่ 5.5% จะได้ดัชนีฯ ที่คุ้มเสี่ยงอยู่ที่ 1,430 จุด

กรณีเลวร้าย: คาดว่า EPS จะลดลงจาก 96.0 เหลือ 90.0 ประเมินความเสี่ยงทางลงด้วย EYG ที่ 5.5% เช่นกัน และให้น้ำหนัก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้เหลือ 0.50% ส่งผลให้บอนด์ยิลด์ 10 ปี ลงไปเหลือ 0.8% จะคำนวณดัชนีฯ ที่คุ้มเสี่ยงอยู่ที่ 1,430 จุดเช่นกัน

ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าตลาดหุ้นไทยได้เข้าใกล้ระดับที่รับรู้ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นไปอย่างมากแล้ว และกำลังประเมินสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศต่างๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้

อ่านข่าว

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้าเปิดร่วงแรง เอเชียลบ

ดาวโจนส์ปิดดิ่งกว่า 1,000 จุด วิตกไวรัสโควิด-19

ราคาน้ำมันดิบร่วงเกือบ 4%