ทรีนีตี้เชียร์รับเหมา CK เด่น ไทยพาณิชย์นำเสนอ “BCH”

HoonSmart.com>>”ทรีนีตี้” เปิดมุมมองศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มลงทุนภาครัฐ  ยก CK  จับตาแรงกระเพื่อมนอกสภา แนะหลีกเลี่ยงกลุ่มโรงแรม สนามบิน สายการบิน   ส่วนบล.ไทยพาณิชย์คาดหุ้นสัปดาห์นี้ ปรับตัวลงไม่มาก  เลือกหุ้นปลอดภัยการแพทย์ บางกอก เชน ฮอสปิทอล  กำไรปีนี้เร่งตัวขึ้น ราคาลงมามาก

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ปมกู้เงินและตัดสิทธิ 16 กรรมการบริหาร 10 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวน ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 1,495.09 จุด บวก 3.85 จุด นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,776 ล้านบาท กองทุน สถาบัน รายย่อยสวนซื้อ

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (24-28 ก.พ.2563) นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลในระบบสภามีความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความคล่องตัวในการทำงานและออกกฎหมายต่างๆ ในช่วงต่อไปได้ มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ เช่น รับเหมา ฐานราก วัสดุก่อสร้าง โดยเลือกหุ้น CK เป็น Top pick

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีโอกาสเกิดแรงกระเพื่อมนอกสภาได้ จากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสิน หากเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีนัยยะมองว่าจะไม่มีผลใดๆ แต่หากขยายวงเป็นการชุมนุมกลุ่มใหญ่และลากยาว มองว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวได้ จึงยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มโรงแรม สนามบิน สายการบิน ต่อไปเช่นเดิม

ด้านบล.ไทยพาณิชย์ ยังคงมีมุมมองลบต่อตลาด แต่จะปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากค่าเงินมีแนวโน้มอ่อนค่าลง มีเป้าหมายที่ 32 บาท ในไตรมาส 2 และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)อาจปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในไตรมาส 2 เช่นเดียวกัน

ส่วนตัวเลขการส่งออกของเดือน ม.ค. 2563 ที่จะประกาศออกมาในวันที่ 24 ก.พ. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอตัวจากเพิ่มขึ้น 2.54%ในเดือนธ.ค.2562

สัปดาห์นี้ เลือกตัวที่ปลอดภัยในกลุ่มการแพทย์ แนะนํา หุ้นบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล( BCH) เนื่องจากเป็นผู้นําธุรกิจโรงพยาบาลที่มีความแข็งแกร่งในตลาดผู้ป่วยกลุ่มเงินสดที่มี รายได้ระดับกลางและตลาดผู้ป่วยกลุ่มประกันสังคม และราคาหุ้นปรับลงสะท้อนความกังวลผลการดําเนินงานไตรมาส 4/62 ที่คาดออกมาอ่อนแอแล้ว จนซื้อขายด้วย P/E ปีนี้เพียง 28 เท่า ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 36 เท่าและตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดภูมิภาคอยู่ 9%

ขณะที่ปี 2563 คาดผลการดําเนินงานจะเร่งตัวดีขึ้นจากการที่สํานักงานประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายทางการแพทย์  และยังมีปัจจัยกระตุ้นจากผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคําแหง และ WorldMedicalHospita l(WMC )ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนในราคาหุ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อลงทุน

ฝ่ายวิจัยบล.ไทยพาณิชย์คาดว่า ไตรมาส 4/62   BCH มีกำไรสุทธิ 210ล้านบาท หดตัว 21.8% แต่หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดจากการ Writeoff รายได้ประกันสังคมราว 70 ล้านบาท คาดกําไรปกติจะอยู่ที่ 280 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้น 4% ส่งผลให้ทั้งปี 2562 มีกำไรปกติ 1,190 ล้านบาท เติบโต 7.1% ส่วนปี 2563 คาดยังมีกําไรปกติเติบโต 14% ส่วนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คาดได้รับผลกระทบจํากัดเนื่องจากมีผู้ป่วยชาวจีนไม่ถึง 1% ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเป้าหมายกลางปีนี้ที่หุ้นละ 20.50 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกําไรครึ่งหลังของปีก่อนหุ้นละ 0.13 บาท

ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมาดาวโจนส์ร่วงลง 225 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ที่ 28,992.41 จุด วิตกไวรัสโควิด-19 นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่ำหรือโต 0% ในไตรมาสแรกก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี ดังนั้นในระยะสั้นกระทบผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนแน่นอน

นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าการแพร่ระบาดจะกระทบการนำเข้าของจีน 30% และกระทบส่งออก 10% ทำให้ต้องปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจลง จาก 5.8% มาที่ 5.5%