PTT ปี 62 กำไร 9.29 หมื่นลบ. ลด 22% ปันผล 1.10 บาท XD 4 มี.ค.

HoonSmart.com>> ปตท.ปี 62 กำไรสุทธิ 92,950.60 ล้านบาท ลดลง 22.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน EBITDA ลด 17.8%  ยอดขายลด 5% ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจการค้าระหว่างและธุรกิจน้ำมันฉุด ส่วนไตรมาส 4/62  ยอดขายเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 3/62 บอร์ดอนุมัติปันผลอีก 1.10 บาทต่อหุ้น  ผลตอบแทน 2.46% XD 4 มี.ค.นี้ จ่ายเงิน 30 เม.ย.63

บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 กำไรสุทธิ 92,950.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.20 บาท ลดลง 22.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 119,647.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.15 บาท

ปี 2562 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจ่านวน 2,219,739 ล้านบาท ลดลง 116,416 ล้านบาท หรือลดลง 5.0% จากปี 2561   หลักๆ มาจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจน้ำมันลดลง จากราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าจะมีรายได้ขายเพิ่มขึ้นจากธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม (GPSC เข้าซื้อ GLOW) ธุรกิจส่ารวจและผลิตฯ (จากปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มในโครงการบงกชการเข้าซื้อ Murphy และ Partex ในปี 2562 และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น) รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติโดยหลักจากธุรกิจจัดหาและจัดจ่าหน่ายก๊าซฯ (ปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น)

ในปี 2562 EBITDA จำนวน 288,972 ล้านบาท ลดลง 62,424 ล้านบาท หรือ 17.8% จาก 351,396 ล้านบาท ในปี 2561 สาเหตุหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นปรับลดลงตามส่วนต่างราคาที่ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมี แม้ว่าในปี 2562 มีก่าไรจากสต๊อกน้ำมันประมาณ 2,800 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2561 มีขาดทุนจากสต๊อกนน้ำมันประมาณ 6,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในปี 2562 มีความผันผวนน้อยกว่าปี 2561

กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีผลการด่าเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ตามก่าไรขั้นต้นที่ลดลงจากราคาขายตามราคาอ้างอิงปิโตรเคมีที่ปรับลดลงมาก ในขณะที่ต้นทุนก๊าซฯ สูงขึ้น อย่างไรก็ดีกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมดีขึ้น โดยหลักจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 และธุรกิจส่ารวจและผลิตฯ เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ด้านค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าหน่ายในปี 2562 มีจ่านวน 133,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,611 ล้านบาท หรือ 7.8% จาก 123,593 ล้านบาท ในปี 2561 โดยหลักจากธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC และธุรกิจส่ารวจและผลิตฯ จากการเข้าซื้อสัดส่วนลงทุนเพิ่มในโครงการบงกช (เพิ่ม 22.2%) และโครงการ Murphy ในประเทศมาเลเซีย และ Partex

ในปี 2562 มีส่วนแบ่งก่าไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจ่านวน 6,008 ล้านบาท ลดลง 2,507 ล้านบาท หรือ29.4% จากปี 2561 โดยหลักลดลงจาก PTTAC ที่ผลการด่าเนินงานปรับลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ AN และ MMA ที่ลดลง รวมถึงผลการด่าเนินงานที่ลดลงของ HMC จากเงินปันผลรับและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของ PP ที่ลดลง

ก่าไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มขึ้น 8,959 ล้านบาท จาก 6,354 ล้านบาท ในปี 2561 เป็น 15,313 ล้านบาท ในปี 2562 โดยหลักมาจากก่าไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นแล้วและยังไม่เกิดขึ้นจากการแปลงค่าลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น ของ PTTEP และก่าไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการแปลงค่าเงินกู้ยืมและเจ้าหนี้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นของ GC และ ปตท. จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากกว่า ปี 2561(ปี 2562 เงินบาทแข็งค่า 2.28 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 ในขณะที่ปี 2561 เงินบาทแข็งค่า 0.24 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560)

สำหรับงวดไตรมาส 4/2562 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 17,446 ล้านบาท ลดลง 10.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 13.9% จากไตรมาส 3/2562 มี EBITDA จำนวน 66,948 ล้านบาท ลดลง 749 ล้านบาท หรือ -1.1% จากไตรมาส 3/2562 และมียอดขาย 560,106 ล้านบาท ลดลง 9.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 3/2562 หลักมาจากกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจส่ารวจและผลิตปิโตรเลียมจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และ ราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่รายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นและกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ลดลงจากปริมาณและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง

คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 1.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 5 มี.ค. 2563 ขึ้น XD วันที่ 4 มี.ค. 2563 และจ่ายเงิน 30 เม.ย. 2563 ทั้งนี้เงินปันผลหุ้นละ 1.10 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.46% เทียบกับราคาหุ้นปิดที่ 44.75 บาท ณ วันที่ 20 ก.พ. 2563

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ  0.90 บาท รวมทั้งปี 2562 จ่ายเงินปันผล 2 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 57,126 ล้านบาท  คิดเป็นอัตราประมาณ 62.5% ของกำไรในปี 2562