TPIPL ออกหุ้นกู้ 6 พันลบ. อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี

HoonSmart.com>> “ทีพีไอ โพลีน” ออกหุ้นกู้มูลค่า 6,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ขายนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนทั่วไป 13-15 ม.ค.นี้ จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี ชูเรทติ้ง “BBB+” และแนวโน้มเครดิต “Positive” นำเงินซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ รองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตปูนซีเมนต์ ไฟเบอร์ซีเมนต์ เม็ดพลาสติก พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนด

น.ส.ดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์รายใหญ่ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ TPIPL ครั้งที่ 1/2563 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566 หรือมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.5% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน หรือทุกวันที่ 16 มกราคม 16 เมษายน 16 กรกฎาคม และ 16 ตุลาคมของแต่ละปีตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะเริ่มชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 16 เมษายน 2563

หุ้นกู้ดังกล่าวมีกำหนดเสนอขายในวันที่ 13-15 มกราคม 2563 ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 6 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นกู้ที่เสนอขายจำนวนไม่เกิน 3 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 3 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรตติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่ BBB+ และแนวโน้มอันดับเครดิต Positive โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตปูนซีเมนต์ ไฟเบอร์ซีเมนต์ เม็ดพลาสติก ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคม 2563 โดยผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยทุกสาขา

ปัจจุบัน TPIPL เป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในประเทศไทย โดยผลการดำเนินงานจากงบการเงินรวมงวด 9 เดือนแรกปี 2562 (มกราคม-กันยายน 2562) มีรายได้รวม 29,189 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,126 ล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานปี 2563 TPIPL คาดว่ารายได้จากธุรกิจปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่มีความชัดเจน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า, โครงการมอเตอร์เวย์สายก.ท.ม. โคราช สายสีน้ำเงิน, โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา, สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2, โครงการวันแบงคอก, โครงการแบงคอกมอลล์ ฯลฯ