HoonSmart.com>> “ชโย กรุ๊ป” ตั้งเป้าปี 63 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท เดินหน้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มต่อเนื่อง หลังปี 62 ซื้อเข้าพอร์ต 1.39 หมื่นล้านบาท ทะลุเป้า 1 หมื่นล้านบาท หนุนพอร์ตบริหารหนี้โตกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตั้งเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีกกว่า 10,000 ล้านบาท
พร้อมตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อหนี้ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน 700 – 800 ล้านบาท และซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันอีก 200 – 300 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจซื้อหนี้เข้ามาบริหาร 70 – 80% ธุรกิจติดตามทวงหนี้ 10 – 20% และธุรกิจปล่อยสินเชื่อ 5 – 10%
“แนวโน้มยอดหนี้เสียในปี 2563 คาดว่าจะยังมีเพิ่มมากขึ้น โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะอยู่ที่ 3% จากยอดปล่อยสินเชื่อทั้งระบบประมาณ 15 – 16 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้สถาบันการเงินมีภาระตั้งสำรองตาม TFRS9 เพิ่มขึ้น เราคาดว่าจะมีหนี้เสียรวมทั้งระบบอยู่ที่ราว 5 แสนล้านบาท และเป็นหนี้ที่สถาบันการเงินจะปล่อยออกมาประมูลราว 2.5-3 แสนล้านบาท เราวางงบลงทุนสำหรับซื้อหนี้ไว้ที่ 1 พันล้านบาท และตั้งเป้าจะซื้อหนี้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนในอุตสาหกรรมปัจจุบันเรามีเพื่อนร่วมธุรกิจเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าธุรกิจนี้จะมีสีสันและได้ช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มขึ้น” นายสุขสันต์ กล่าว
สำหรับทั้งปี 2562 คาดว่ารายได้จะทำนิวไฮหรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 265 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท โดยในปี 2562 บริษัทฯ สามารถซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเกินเป้าหมายที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท โดยตุนพอร์ตบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและการได้มาซึ่งสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 2562 รวมแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท
นายสุขสันต์ กล่าวว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ดำเนินการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารทั้งสิ้น 13,906.48 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท
ในช่วงไตรมาส 4/2562 บริษัทฯ ประกาศเข้าซื้อหนี้และลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องหนี้ด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นชนิดที่มีหลักประกันและหนี้ไม่มีหลักประกันรวม 9,099.16 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯ ดำเนินการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาแล้ว 4,807.32 ล้านบาท รวมทั้งปี 2562 ทำได้ 13,906.48 ล้านบาท นับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารได้ครบตามแผนแล้ว