MARKET INSIGHT ประจำวันที่ 2 – 6 ธ.ค. 2562
• ในอาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าคาดและนักลงทุนยังคาดว่า FED ยังคงมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านตลาดซื้อคืนพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง
• ความเสี่ยงทางการค้าเริ่มกลับมาสู่ตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากปธน. Trump ได้ลงนามในกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ชุมนุมในฮ่องกง ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีสาระสำคัญว่า ทางสหรัฐฯ จะระงับการส่งออกอาวุธที่ใช้ในการควบคุมกลุ่มชุมนุมไปฮ่องกงและทบทวนสิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกงในแต่ละปี
• ตัวเลขดัชนี PMI ของประเทศ G3 ในเดือนพ.ย. มีสัญญาณหยุดชะลอตัวลง ตัวเลข PMI 12151.15 ของสหรัฐฯ ปรับฟื้นตัวขึ้น จาก 50.9 จุด เป็น 51.9 จุดซึ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากทั้งภาคการผลิตและบริการท่ีปรับตัวเพิ่มข้ึน ขณะเดียวกันดัชนี PMI ของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ดัชนีของยูโรโซนปรับตัวลดลงเพียง 0.3 จุด เป็น 50.3 ตามภาคบริการที่ยังคงอ่อนแอ
• ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังอ่อนแอ ชี้ให้เห็นจากยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. พลิกกลับมาหดตัวแรง-7.1%YoY จากผลกระทบจากการขึ้นภาษี VAT ในต้นเดือนต.ค. และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวโน้มออกมาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยในเดือน ต.ค. สะท้อนภาคการผลิตยังคงอ่อนแอ จากตัวเลขดัชนี MPI ปรับตัวลดลงอย่างมาก -8.5% YoY จาก -5.1%YoY ในเดือนก่อน โดยอุตสาหกรรมที่มีการผลิตลดลงจากการหดตัวตามแรงส่งออกท่ีอ่อนแอ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เหล็ก และผลิตภัณฑ์ยาง
กลยุทธ์การลงทุน:
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอสสมอลแคป (SCBUSSM)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH)