TITLE จัดหน้าตัก 100 ล้าน นำร่องเช่าซื้ออสังหา ฯ ปลดล็อกลีสโฮลด์ต่างชาติ

HoonSmart.com>>“ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้” หรือ TITLE นำร่องลิสซิ่งเช่าซื้ออสังหา ฯ  ควักหน้าตัก 100 ล้านบาท รองรับทรัพย์อิงสิทธิ์ให้ลูกค้าก่อนพันธมิตร 2-3 ราย เข้าร่วมโครงการ

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้  (TITLE)  ผู้ประกอบการอสังหา ฯ  ทางเลือก และอสังหา ฯ เพื่อการท่องเที่ยว ประเภทตึกสูง หรือคอนโดมีเนียม ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีฐานลูกค้าต่างชาติ  80 %  อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งหน่วยงานขึ้นมา นำร่องปลดล็อกการเช่าซื้ออสังหา ฯ ของต่างชาติ หลังจากที่พ.ร.บ. ทรัพย์อิงสิทธิ์ มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา  โดยได้สำรองวงเงิน 100 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อเพื่อการซื้อคอนโดของ TITLE

เนื่องจาก ขณะนี้พันธมิตรเช่าซื้อรายใหญ่ 2-3 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาธุรกิจการให้สินเชื่ออสังหา ฯ  โดย 1 ใน 3 ราย  คณะกรรมการ (บอร์ด ) มีการพิจารณาและตอบรับเข้าร่วมลีสซิ่งอสังหา ฯ แล้ว อีก 2 ราย อยู่ระหว่างศึกษาเข้าร่วมโครงการ

” เศรษฐกิจที่ซบเซา ลิสซิ่ง กำลังหนีตายจากธุรกิจเดิม หันมาให้ความสนใจเช่าซื้ออสังหา ฯ ซึ่งพอร์ตใหญ่กว่าปล่อยกู้รถมาก การที่ TITLE  กันสำรองหน้าตักเอง 100 ล้านบาท  เพื่อนำร่องให้ลิสซิ่งรู้กระบวนการทำสินเชื่อเช่าซื้อกับ TITLE ก่อน”

แหล่งข่าวจาก TITLE กล่าวว่า การนำร่องเช่าซื้ออสังหา ฯ ให้กับลีสซิ่ง เพื่อสร้างความสะดวกและคล่องตัวให้กับลูกค้าที่ติดขัดเงิน ช่วยให้ลูกค้ามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

” ร่มโพธิ์ ฯ เป็นอสังหาทางเลือก ลูกค้าต่างชาติ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าโรงแรม หรือคอนโด เดือนเป็นหมื่นหรือแสนบาท   หรือปล่อยเช่าฝากนิติบุคคลได้ค่าเช่า วันนี้ ถ้าลูกค้าต่างชาติมีเงินก็ซื้อปกติ ถ้าไม่มีเงินหรือเงินงบประมาณ TITLE ช่วยปลดล็อกให้ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ สร้างความสะดวกคล่องตัวให้ลูกค้า แล้วสิ่งที่ต่างชาติได้รับจากพ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ คือ สามารถนำโฉนดไปหมุนได้อย่างน้อย 30 ปี ซึ่งโฉนดตัวจริงอยู่กับร่มโพธิ์ 1 ฉบับ และลูกค้าถือ 1 ฉบับ นำไปใช้ทำธุรกรรมได้ตามปกติในช่วงของระยะเวลาสัญญา ”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เชื่อว่า พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ  จะทำให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ต่างชาติถือสิทธิ์ลีสโฮลด์ บนอสังหา ฯ สามารถนำกรรมสิทธิ์ในลิสโฮลด์ ไปหมุนทำธุรกกรรมการเงินต่าง ๆ ได้ เพื่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ไม่ใช่เงินจมเปล่า ๆ จากการถือสิทธิลิสโฮลด์ เหมือนอดีตอีกต่อไป

ทั้งนี้ ประเทศไทย ไม่เปิดสิทธิให้ต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดิน บนผืนแผ่นดินประเทศไทยได้ ดังนั้น ต่างชาติจึงซื้อที่ดิน บ้านเดี่ยว ไม่ได้  นอกจากอาคารชุด คอนโดมีเนียม เพียง 49 % ของแต่ละยูนิต โดยถือกรรมสิทธิ์ประเภท ลิสโฮลด์ เท่านั้น

ซึ่งสิทธิลีสโฮลด์  (Lease  hold)  ต่างชาติ จะไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อหมดสัญญาแล้ว สิทธิในอสังหา ฯ จะหมดไปเป็นของผู้ขาย  ผิดกับ ฟรีโฮลด์ (Free hold) ซื้อแล้วโอนกรรมสิทธิ์เป็นของผู้ซื้อ

สิทธิการซื้อแบบลีสโฮลด์ ต่างชาติ ไม่สามารถนำสิทธินี้ ไปทำธุรกรรมสัญญาใด ๆ  ได้เลย  เป็นเพียงการถือโฉนดหรือสัญญา ไว้เฉย ๆ ตลอดสัญญา  ดังนั้น พ.ร.บ. ทรัพย์อิงสิทธิ ที่ออกมา จึงช่วยปลดล็อกปัญหาดังกล่าวของต่างชาติ