โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย
“คิกออฟ” ความพยายามจัดบอลโลกที่มีจำนวนเจ้าภาพร่วมมากสุดในประวัติศาสตร์ ได้เริ่มขึ้นแล้วระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯ ด้วยพิธีลงนาม MOU ระหว่าง ประธานฟีฟ่า กับ เลขาธิการอาเซียน สนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขัน 2034 FIFA World Cup โดยมีผู้นำ 10 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเป็นสักขีพยาน ข่าวดังกล่าวรวมถึงประเด็นอื่นๆในการประชุม ดึงดูดให้โลกหันมาสนใจภูมิภาคของเราในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (Association of Southeast Asian Nations : ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดย 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ ไทย ภายใต้ “ปฏิญญากรุงเทพฯ” ต่อมาได้ขยายสมาชิกภาพไปยังอีก 5 ประเทศ คือ บรูไน เวียดนาม ลาว เมียนมาร์ และ กัมพูชา รวมทั้งหมดเป็น 10 ชาติในปัจจุบัน
เศรษฐกิจอาเซียน มีแนวโน้มขยายตัวสูง เตรียมขึ้นแท่นเบอร์ 4 ของโลกในอีก 30 ปีข้างหน้า ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาว อาทิ การท่องเที่ยว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ความได้เปรียบด้านโครงสร้างประชากร รวมถึงเป็นจุดหมายการย้ายฐานผลิต ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่าง จีน – สหรัฐฯ
หุ้นอาเซียน ไม่ค่อยหวือหวา เจอภาวะ “หมี” ปีที่แล้วก็ลงเบากว่าหุ้นเอเชียอื่นๆ พอถึงปี 2019 หลายตลาดเริ่มกลับขาเป็น “กระทิง” แต่อาเซียนดูเหมือนยังเดินเนิบๆ จนนักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามไม่ค่อยสนใจ แต่…ระวังให้ดี! จะวิ่งให้ดู!
สภาพคล่อง + ปัจจัยกระตุ้น = ตลาดหุ้นกระทิง
สภาพคล่อง “ทะลัก” เฟดจัดหนักจัดเต็มแจกชาวโลก ลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง (เราเชื่อว่าจะลดอีก) แถมกลับมาพิมพ์เงินอย่างน้อยถึงไตรมาส 2 ปีหน้า ส่งผลให้ดอลลาร์กลับอ่อนค่า แบงก์ชาติอื่นๆหันมาลดดอกเบี้ยกันแทบจะทั่วทั้งโลก
ปัจจัยกระตุ้น เด่นๆเท่าที่รวบรวมได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา อาเซียน มีเพียบ!
สิงคโปร์ “แจ็คพอต” เหตุประท้วงยืดเยื้อกว่า 4 เดือนที่ฮ่องกง ส่งผลให้ความมั่งคั่งเริ่มโยกย้ายไปหา “เกาะคู่แข่ง” อัตราการเข้าพักโรงแรมในสิงคโปร์สูงเป็นประวัติการณ์ บ้านหรูก็ขายดีขึ้น เช่นเดียวกับ บริการตู้เซฟ และ บัญชีเงินฝากต่างประเทศ ซึ่งอ้าแขนรับทรัพย์เศรษฐี ที่หนีความวุ่นวายไปหามุมสงบ ผลสำรวจชี้ 23% ของบริษัทอเมริกันที่มีออฟฟิสในฮ่องกงกำลังคิดย้ายหนี โดย 90% ของกลุ่มนี้มองว่า สิงคโปร์ คือทางเลือกที่ดีที่สุด
อินโดนีเซีย หุ้นพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือน ต.ค. ยาวนานสุดตั้งแต่ปี 1995 ปธน.โจโกวี รับตำแหน่งเทอม 2 ย้ำปฏิรูป เพิ่มการลงทุน ปรับปรุงกฎระเบียบให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น และฟอร์มทีมเศรษฐกิจที่สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
เวียดนาม VN Index ทะลุ 1,000 จุดรับข่าว 2 บริษัทลูกของยักษ์อสังหาฯ Vingroup ประกาศซื้อหุ้นคืนเมื่อช่วงต้นเดือน แถม UN และ IMF เพิ่งช่วยเวียดนาม “อัพเกรด” GDP ในช่วงปี 2011-17 คือที่เคยเห็นว่าโตเร็วแล้วจริงๆมันแรงกว่านั้น! ส่งผลให้ อัตราส่วนหนี้ต่อจีดีพี ของเวียดนามลดลงมาก เปิดทางรัฐบาลกู้เพิ่มได้สบายๆ เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน รับการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศที่กำลังเฟื่องฟู
ไทย รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ กนง. “ปลดล็อก” ลดดอกเบี้ยต่อ เราเชื่อว่าถ้าดอกเบี้ยลดลงจนต่ำพอ (< 1%) ต่างชาติก็จะหันเหความสนใจออกจาก เงินบาท-ตลาดบอนด์ แล้วโยก fund flows เข้าสู่ตลาดหุ้นไทยในที่สุด KT-ASEAN เป็นกองทุนที่น่าสนใจมากจากนี้ไปถึงปีหน้า master fund ในต่างประเทศ JPMorgan ASEAN Equity Fund สิ้นเดือน ก.ย. ได้รับการจัดอันดับสูงสุด 5 ดาว Gold Rating โดย Morningstar กองทุนหลักเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคดาวเด่นซึ่งเป็นที่คาดหมายกันอย่างกว้างขวางว่า ภายในปี 2050 เศรษฐกิจของทั้ง 10 ชาติสมาชิกจะมีขนาดรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ขณะปัจจัยระยะสั้นก็ไม่ธรรมดา! JPMorgan เผยสถิติในอดีตบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นอาเซียน มักสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในระยะเวลา 3-6 เดือนหลังจาก Fed และ ECB ผ่อนคลายการเงินช่วงกลางวัฏจักร ดังเช่นปัจจุบัน!
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน