HoonSmart.com >> PACE โคม่า !!! ผิดนัดชำระหนี้แบงก์ไทยพาณิชย์ 2,645 ล้านบาท เตือนชำระภายใน 4 พ.ย.นี้ คาดหุ้นกู้มีหลักประกัน “ดีน แอนด์ เดลูก้า” มูลค่า 2 พันล้านบาท แท้ง ฉุดหุ้น SCB ร่วงแรง ผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน PACE ขาดทุนยับ หลังราคาหุ้น เหลือ 7 สตางค์ ตลาดหลักทรัพย์แจ้งเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูล
วันนี้ (21 ต.ค.) บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้ที่มีกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จำนวน 2,645.12 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระหนี้เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2562 หลังมีหนังสือแจ้งต้องชำระหนี้ภายใน 14 วัน หรือภายในวันที่ 4 พ.ย.นี้
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ แจ้งเตือน นักลงทุนศึกษาข้อมูล การผิดนัดชำระหนี้ของ PACE อย่างระมัดระวัง สรุปภาระหนี้ของ PACE ดังนี้ 1. บริษัทและบริษัทย่อย ผิดนัดชำระหนี้รวม 2,645 ล้านบาท ครบกำหนดชำระ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 คิดเป็น 12.55% ของสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 ซึ่งต้อง ชำระหนี้ภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562
2. การผิดนัดดังกล่าว เป็นผลให้เกิดการผิดนัดในมูลหนี้อื่น (Cross Default) โดยที่เจ้าหนี้ยังมิได้ส่งหนังสือบอกกล่าว ให้ชำระหนี้ รวม 9,227 ล้านบาท คิดเป็น 43.76% ของสินทรัพย์รวม
3. บริษัทจะเร่งดำเนินการปรึกษาและเจรจา กับเจ้าหนี้ เพื่อจัดทำแผนปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ โดยแจ้งความคืบหน้าภายในเดือนพ.ย. 2562
4. ปัจจุบัน บริษัทหยุดการก่อสร้างโครงการอสังหาริทรัพย์ และเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
แหล่งข่าว กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ คาดว่า มีสาเหตุจากขายหุ้นกู้มีหลักประกันของ ดีน แอนด์ เดลูก้า มูลค่า 2 ,000 ล้านบาท ไม่ได้ ซึ่งเดิมนายสรพจน์ เตชะไกรศรี มีแผนขายต้นเดือนต.ค.นี้ เป้าหมายนำเงินไปชำระหนี้แบงก์ไทยพาณิชย์บางส่วน เพื่อให้โครงการมหาสุมทรและนิมิตหลังสวน เดินหน้าต่อ
อย่างไรก็ตาม ดีน แอนด์ เดลูก้า ได้ถอนไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว
สำหรับผลกระทบการผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อลูกค้าโครงการของ PACE ที่ซื้อและรอโอน รวมทั้งผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน PACE ครั้งล่าสุด ราคา 0.25 บาท ขณะนี้เสียหายจากการลดลงของราคาหุ้น ณ ล่าสุดเหลือ 7 สตางค์ ขาดทุน 18 สตางค์ หรือ 72 % รวมทั้งหุ้น SCB วันที่ 21 ต.ค. ร่วง 3.50 บาท ปิด 113 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,765.32 ล้านบาท
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACE กล่าวว่า บริษัท ฯ ประสบปัญหากับความท้าทายทางการเงินต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และทีมผู้บริหารพยายามแก้ปัญหามาตลอด และเร่งเจรจา-ให้ความร่วมมือกับธนาคาร ทำแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดแก่พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า หากบริหารจัดการหนี้สำเร็จ ทำให้บริษัท ฯ ดำเนินการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จได้
นายสรพจน์ กล่าวย้ำว่า บริษัทยังมีมูลค่าทรัพย์สิน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2562 ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 1.4 หมื่นล้านบาท
“การปรับโครงสร้างหนี้ มีเป้าหมายกลับมาก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ให้เสร็จพร้อมส่งมอบกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าได้ มั่นใจไม่กระทบธุรกิจ ดีน แอนด์ เดลูก้า ซึ่งทำรายได้และกำไรต่อเนื่อง มั่นคง” นายสรพจน์ กล่าว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลการผิดนัดชา ระหนี้ของ PACE ด้วยความระมัดระวังก่อนตดัสินใจลงทุน เนื่องด้วยบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จ ำกัด (มหำชน) (PACE) ได้เปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับกำรผิดนัดช ำระหนี้ รายละเอียดตาม ข่าวของ PACE เมื่อวันที่ 21 ตุลำคม 2562 สรุปได้ดังนี้
1. บริษัทและบริษัทย่อยผิดนัดช ำระหนี้รวม 2,645 ล้านบาท ครบกำหนดชำระ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 คิดเป็น 12.55% ของสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนำยน 2562 ซึ่งต้อง ชำระหนี้ภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562
2. การผิดนัดดังกล่าว เป็นผลให้เกิดการผิดนัดในมูลหนี้อื่น (Cross Default) โดยที่เจ้าหนี้ยังมิได้ส่งหนังสือบอกกล่าว ให้ชำระหนี้ รวม 9,227 ล้านบาท คิดเป็น 43.76% ของสินทรัพย์รวม
3. บริษัทจะเร่งดำเนินการปรึกษาและเจรจา กับเจ้าหนี้ เพื่อจัดทำแผนปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ โดยแจ้งความคืบหน้าภายในเดือนพ.ย. 2562
4. ปัจจุบัน บริษัทหยุดการก่อสร้างโครงการอสังหาริทรัพย์ และเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ตลาดหลักทรัพย์ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลดังกล่าว ด้วยความระมัดระวัง เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน