MARKET INSIGHT รายงานภาวะตลาดประจำวันที่ 7 – 11 ต.ค. 2562
Highlight ประจำสัปดาห์
• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง หลังการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี และยูโรโซนต่ าสุดในรอบ 7 ปี อย่างไรก็ตามดัชนีภาคการผลิตของจีนปรับตัวข้ึน ขณะท่ีการเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในวันท่ี 10-11 ต.ค. นำโดยนาย Robert Lighthizer (ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ) กับนาย Liu He (รองนายกรัฐมนตรีจีน) มีโอกาสที่จะเลื่อนภาษีนำข้าสินค้าจีนกลุ่ม 250 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ออกไปจากกำหนดวันที่ 15 ต.ค. และช่วยหนุนตลาดหุ้นในระยะสั้น
• WTO มีมติเห็นชอบให้สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU มูลค่า 7.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังพิจารณาข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ แล้วพบว่า EU ให้เงินอุดหนุนบริษัท Airbus อย่างไม่เป็นธรรมจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จึงตัดสินใจที่จะเก็บภาษีนำเข้าเครื่องบินจากยุโรป 10% และเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่นๆ 25% จาก 4 ประเทศหลักได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, สเปน และอังกฤษ
• ความเสี่ยงเรื่อง Brexit มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากรัฐบาลอังกฤษได้สรุปข้อตกลงการออกจาก EU และเตรียมส่งให้สภายุโรปพิจารณา โดยสาระสำคัญคือจะมีเงื่อนไขให้อังกฤษสามารถประกาศออกจากข้อตกลง backstop โดยไม่ให้มีการกั้นกำแพงหรือด่านตรวจเช็คระหว่างพื้นที่ Northern Ireland ของอังกฤษและ Republic of Ireland ซึ่งเป็นประเทศสมาชิก EU เนื่องจากประชากรทั้งสองพื้นที่เป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน
• ราคาน้ำมันดิบกลับมาถูกกดดันอีกครั้ง หลังจากช่วง Driving season ในสหรัฐฯ จบลง และซาอุฯ สามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันกลับมาได้แล้วทั้งหมดภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ หลังโรงงานแปรรูปน้ำมัน 2 แห่งถูกโจมตี ส่งผลให้สต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น กดดันราคาน้ำมัน
• จับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ในวันที่ 10-11 ต.ค. โดยนาย Robert Lighthizer (ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ) กับนาย Liu He (รองนายกรัฐมนตรีจีน) ตกลงว่าจะพบปะกันเพื่อเจรจาทางการค้าในรายละเอียดที่กรุงวอชิงตัน
กลยุทธ์การลงทุน :
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (SCBEUEQ)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)