หุ้นปตท.เทรดสนั่นเฉียด 1 หมื่นล้านบาท ราคาร่วง 3% ตกใจบล.เครดิตสวิส ลดน้ำหนักการลงทุน โชคดีได้กลุ่มแบงก์มาช่วย ส่งออกเม.ย.โตเหนือคาด 12.3% ตอกย้ำเศรษฐกิจไทยสดใส
ตลาดหุ้นวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงในภาคบ่าย เกือบ 14 จุด ก่อนเด้งขึ้นมา ติดลบ 7.60 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ระดับ 1,760 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติขายมากกว่า 2,559 ล้านบาท พุ่งเป้าไปยังหุ้นบริษัทปตท.(PTT) ปิดทรุดหนัก 1.75 บาท หรือ 3.07% ปิดที่ 55.25 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายมากถึง 9,355 ล้านบาท
มาร์เก็ตติงกล่าวว่า แรงขายหุ้นปตท.ที่ออกมาอย่างหนัก เกิดขึ้นจากบริษัทหลักทรัพย์(บล.) เครดิตสวิส ออกบทวิเคราะห์วันที่ 22 พ.ค.2561 ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นบริษัทปตท. จากเท่ากับตลาด เหลือต่ำกว่าตลาด และแม้ว่ามีการคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลก็ตาม แต่คาดว่าราคาหุ้น PTT จะปรับขึ้นอย่างจำกัด
อย่างไรก็ตาม บล.เครดิตสวิส ได้ปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมจาก 48 บาทเพิ่มเป็น 54 บาท หลังจากปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปีนี้ขึ้น 6% ก็ตาม
บทวิเคราะห์ของบล.เครดิตสวิสที่ออกมา สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ไทย ที่ประเมินว่าราคาหุ้น PTT ขึ้นมามากและสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมแล้ว แนะนำให้ขาย เพื่อไปซืิื้อหุ้นตัวอื่นแทน เช่น PTTGC ,BANPu,IRPC
ตลาดหุ้นที่ทรุดลงแรง โชคดีได้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เข้ามาช่วย โดยราคาหุ้นธนาคารใหญ่ปรับตัวขึ้น นำโดยธนาคารกสิกรไทย(KBANK) บวก 1.04% หรือ 2 บาทปิดที่ 195 บาท และะนาคารกรุงไทย(KTB) ปิดที่ 17.70 บาท บวก 0.30 บาทหรือ 1.72% เป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสองวัน จากวันก่อนขานรับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 1 โตถึง 4.8% ตามด้วยกระทรวงพาณิชย์ประกาศมูลค่าการส่งออก ขยายตัวสูงถึง 12.3 % ยิ่งสร้างความมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของการเติบโตของสินเชื่อ และความต้องการใช้เงินลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐ
บล.โนมูระ พัฒนสิน ยอมรับว่าเศรษฐกิจไตรมาส 1 เติบโตมากกว่าที่ทางโนมูระพัฒนสินคาดการณ์ไว้ที่ 3.9% จึงปรับเพิ่มประมาณการปีนี้ึขึ้นสู่ 4.3% จากที่คาดไว้เดิม 4% พร้อมแนะนำการลงทุนในหุ้น KBANK, BBL, CPALL
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์มูลค่าการส่งออกในปี 2561 มีโอกาสขยายตัวได้ประมาณ 8% หลังจากส่งออกเดือนเม.ย.ถึง 12.3% แต่มูลค่าการนำเข้าที่เติบโต 20.4% ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนเม.ย. พลิกกลับมาขาดดุล 1,283 ล้านดอลลาร์ฯ นับเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 43 เดือน