HoonSmart.com>>“SENA” โชว์ตุน backlog 12,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ 4,000 กว่าล้านบาท เล็งเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 9 โครงการ รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท ผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2562 กวาด 2,342 ล้านบาท รายได้ธุรกิจโซลาร์โตกระฉูดกว่า 1,793% มองตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลังฟื้นตัว
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/2562 ที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ประกอบกับมาตรการการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยของหรือมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 ชะลอตัวจากไตรมาสแรก
จากปัจจัยดังกล่าว จึงส่งผลให้รายได้รวมงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 อยู่ที่ 2,342.35 ล้านบาท ปรับตัวลดลง17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 279.1 ล้านบาท ลดลง 28.4 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/ 2562 อยู่ที่ 1,129 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 34.9% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 119.4 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจโซลาร์ของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดหลายเท่าตัว โดยมีรายได้อยู่ที่ 58.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1,793.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาตกลงซื้อขายอุปกรณ์ พร้อมติดตั้ง สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) กับ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
“ในการดำเนินธุรกิจโซลาร์ของเสนา เป็นปีที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากข้อตกลงกับพันธมิตรทางธุรกิจในการขายอุปกรณ์ และให้บริการติดตั้ง ประกอบกับทิศทางการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการที่เห็นความสำคัญในการบริหารจัดการด้านพลังงานให้มีต้นทุนต่ำลง ขณะที่รัฐบาล ยังคงเร่งให้การส่งเสริมด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยการเปิดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป และสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบ ตามโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ส่งผลให้ตลาดโซลาร์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” ผศ.ดร.เกษรากล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบจากมาตรการ LTV รวมถึงสถานการณ์ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างยังมีไม่เพียงพอ บริษัทปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท โดยเลื่อนไปเปิดในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2562 โดยในปีนี้บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) มูลค่า 12,583 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งจะเป็นการทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ประมาณ 4,582 ล้านบาท และทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2564 ตามลำดับ
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ ประเมินว่ามีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ผลจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ตลอดจนการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และเกิดการจ้างงานในระบบมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางธปท.ยังได้ผ่อนปรนมาตรการ LTV ส่วนนี้จะเข้ามาช่วยผลกระทบได้ระดับหนึ่ง