HoonSmart.com>> บล.ธนชาต ยกหุ้น BTS เด่น แนะซื้อ เป้าหมาย 13.10 บาท หลังพบผู้บริหารคาดจำนวนผู้โดยสารโตสองเท่าปี 65 ด้าน IRR โครงการมอเตอร์เวย์คาดอยู่ระดับเลขสองหลักต้นๆ ด้านบล.ดีบีเอสฯ ปรับเป้าเป็น 13.72 บาท รวมมูลค่าเพิ่มจากมอเตอร์เวย์ มองซื้อ RS-COM7 ต่อยอดธุรกิจหนุนแข็งแกร่ง
บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต ออกบทวิเคราะห์ หลังเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2562 โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” และเป็นหนึ่งใน Top Country Pick ของฝ่ายวิเคราะห์ บล.ธนชาต ให้เป้าหมาย 13.10 บาท โดย BTS คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นตอเนื่องตามการดำเนินงานของระบบขนส่งมวลชนสายใหม่ จึงตั้งเป้าผู้โดยสารเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2565 แตะ 1.2 ล้านเที่ยวคนต่อวันจาก 686,000 เที่ยวคนต่อวันในปัจจุบัน
ส่วนการเจรจาระหว่าง BTS และกรุงเทพมหานคร (BMA) เพื่อลดอัตราค่าโดยสารของสายสีเขียวและการขยายระยะเวลาสัมปทายอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย (ขั้นตอนการอนุมัติ) BTS ระบุว่าจะช่วยกทม.ชำระหนี้แค่บาง่วนและจะไม่รับหนี้ของกทม.มาบันทึกไว้ในงบดุลทั้งหมด
สำหรับบริษัทร่วมทุน BGSR ซึ่ง BTS ถือหุ้น 40% GULF ถือหุ้น 40% STEC และ RATCH ถือรายละ 10% เป็นผู้เสนอราคาโครงการอินเตอร์ซิตี้มอเตอร์เวย์ที่ต่ำที่สุด แม้ว่าราคาประมูลของบริษัทร่วมทุน BGSR จะต่ำกว่าราคากลางของรัฐบาลถึง 36% แต่ BTS คาดว่าค่า IRR จะอยู่ที่ระดับตัวเลขสองหลักต้นๆ
ขณะที่โครงการที่มีศักยภาพอื่นๆ ได้แก่ การขยายสนามบินอู่ตะเภา (ภายใต้กระบวนการประมูล) ,มอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ คาดว่าจะเปิดประมูลปีหน้า และส่วนต่อขยายสีส้มคาดว่าจะเปิดประมูลปีหน้า
ส่วนเหตุผลที่ BTS ซื้อหุ้น RS สัดส่วน 5.9% และ COM7 เพื่อการบริหารการเงินและคาดว่าจะได้ syergy ในระยะยาวจากบริษัทดังกล่าว เช่น BTS สามารถรวมฐานข้อมูลลูกค้าของ RS และ COM7 เข้ากับระบบข้อมูลขนาดใหญ่ ในขณะที่ RS และ COM7 สามารถใช้ Rabbit Line Pay และ Kerry Express เพื่อให้บริการลูกค้าได้
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า BTS การที่บริษัทร่วมทุน BGSR สามารถชนะการประมูลมอร์เตอร์เวย์ 2 สาย มูลค่าสัญญา 61.1 พันล้านบาท ถือเป็นการประเดิมโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ที่ไม่ใช่ธุรกิจเดิมคือ รถไฟฟ้า ในอนาคตก็จะมีมอร์เตอร์เวย์อีกหลายสาย รวมทั้งสาธารณูปโภคอื่นๆอีกมาก ที่เป็นรูปธรรมแล้ว เช่น อู่ตะเภา ขณะที่การร่วมกับพันธมิตร GULF ซึ่งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ก็จะทำให้การก้าวไปข้างหน้ามีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าเพิ่มจากมอร์เตอร์เวย์ได้อีก 0.72 บาทต่อหุ้น เป็นการประเมินเบื้องต้น จากมูลค่าเงินลงทุนทั้งโครงการราว 10,000 ล้านบาท และส่วนทุนที่ต้องลง 5.6 พันล้านบาท ในส่วนมูลค่าที่ประมูล 39.1 พันล้านบาท ซึ่งทางบริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดในไตรมาสหน้า แม้ว่าการประมูลครั้งนี้มีส่วนลดถึง 36% จากราคากลาง แต่บริษัทใช้เทคโนโลยีไต้หวัน ทำให้ประหยัดต้นทุนได้มาก ลดการใช้คน ซึ่งมีต้นทุนสูง และเชื่อว่าในปีแรกที่ให้บริการจะไม่ขาดทุน ทั้งนี้จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และบริหารไปอีก 30 ปี
พร้อมทั้งเชื่อว่าการลงทุนใน RS และ COM7 จะช่วยเกื้อหนุนและต่อยอดธุรกิจระหว่างกลุ่มบีทีเอสและอาร์เอส ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของทั้งสองบริษัทด้วย
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ ซื้อ ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 13.72 บาท จาก 13 บาท หลังรวมมูลค่าเพิ่มจากมอเตอร์เวย์ ทำให้ราคาหุ้นกลับมามีส่วนเพิ่มได้อีก 7.2% บวกกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้ที่ระดับ 4.3% อีกทั้งในเดือน ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องการร่วมทุนสายสีเขียว-ส่วนขยาย ทำให้ได้ต่ออายุเส้นปัจจุบันไปอีกนาน และปีนี้ในงวดไตรมาส 4/62 -63 (ม.ค.-มี.ค.63) จะมีการบันทึกกำไรพิเศษถึง 4 พันล้านบาท มาจากการขาย Baywater 3 พันล้านบาทให้กับ CPN และกำไรจาก U ขายหมอชิตแลนด์เข้า BTS อีก 1 พันล้านบาท