หุ้นหลุด 1,700 ค่าเงินอ่อนจ่อ 31 บาท กสิกรฯคาดเฟดลดดอกเบี้ยอีกรอบ

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลง หุ้นไทยร่วง 12.22 จุด ผิดหวังเฟดไม่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยลงอีก หลังหั่น 0.25% ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็ง กดเงินบาทอ่อนใกล้หลุด 31 บาท ต่างชาติขายหุ้น 1,716 ล้านบาท ซื้อตราสารหนี้กว่า 4 พันล้าน ราคาทองคำลด 250 บาท

ตลาดหุ้นไทยฝืนไม่ไหว ดัชนีร่วงลงแรงกว่า 17 จุด ลงไปต่ำสุดที่ 1,694.93 จุด ก่อนเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,699.75 จุด ลดลง 12.22 จุด หรือ 0.71% มูลค่าซื้อขายรวม 54,654.98 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทย 1,716 ล้านบาท สถาบันช่วยซ้ำอีก 1,134 ล้านบาท ส่วนรายย่อยช้อนซื้อ 3,252 ล้านบาท ขณะเดียวกันต่างชาติ ซื้อตราสารหนี้ ไทย 4,198 ล้านบาท

มาร์เก็ตติงกล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี แต่ตลาดผิดหวังว่าเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณจะปรับอีกในปีนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ากดดันให้เงินบาทอ่อนปิดที่ 30.86/87 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 30.75 – 30.95 บาท/ดอลลาร์

อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ลดลง สะท้อนถึงดอกเบี้ยกลับข้างเป็นขาลง ไม่ดีต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่ส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำให้ต้นทุนลดลง แต่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง กระทบตลาด ยอดขายไม่มาตามนัด และสินค้าบางประเภท บางทำเลล้นตลาด

ด้านราคาทองคำในประเทศ ลดลงบาทละ 250 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่ 20,500 บาทและขายออก 20,600 บาท คำนวณจา สัญญาทองคำล่วงหน้าที่ 1,407ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.88 บาท/ดอลลาร์

สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ระดับ 1,123 ตัน เพิ่มขึ้น 8% จากระดับ 1,038.8 ตันในไตรมาส 2/2561 โดยได้ปัจจัยหนุนส่วนใหญ่จากการที่ธนาคารกลางต่าง ๆ เข้าซื้อ และจากการที่กองทุน EFT ได้เข้าลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงตามที่ตลาดคาด ไปที่กรอบ 2.00-2.25% พร้อมกับประกาศยุติแผนการปรับลดงบดุลก่อนกำหนดเดิมที่ตั้งไว้ในเดือนก.ย. สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและตลาดการเงินทั่วโลกที่รอคอยและคาดหวังว่าจะเห็นท่าทีที่ผ่อนคลายมากกว่านี้จากเฟด ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงกลับมาที่ระดับประมาณ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ (ณ 1 ส.ค. 2562)

ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยในปรเะทศ ศูนย์วิจัยฯมองว่า ธปท. น่าจะให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศในการตัดสินใจเรื่องทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย มากกว่าของสหรัฐฯ

“แม้เฟดจะไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับจังหวะและโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบต่อไป แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัว และเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งจะยังคงส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ฯ และเงินบาทในระยะข้างหน้า “บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ