DOHOME เคาะราคาไอพีโอ 23 ก.ค. เข้าเทรด SET ไตรมาส 3/62

HoonSmart.com>> บล.กสิกรไทย คาด “ดูโฮม” กำหนดราคาขาย 23 ก.ค.นี้ IPO ไม่เกิน 465 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 3 นี้ นำเงินขยายธุรกิจ พัฒนาระบบไอทีและคืนเงินกู้

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย หนึ่งในที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัท ดูโฮม (DOHOME) ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำ DOHOME เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ปัจจุบัน DOHOME ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และอยู่ระหว่างเข้าพบนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเพื่อให้ข้อมูลก่อนกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะกำหนดราคาได้ในวันที่ 23 ก.ค.นี้

นอกจากนี้บริษัทคาดว่า DOHOME จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อย่อ “DOHOME” ในหมวดพาณิชย์ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปลงทุนขยายธุรกิจ พัฒนาระบบไอที ชำระเงินกู้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมีบล.กสิกรไทย และบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บล.ภัทร กล่าวว่า DHOME จะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 465,040,00 หุ้น หรือคิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ประกอบด้วย การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 456,160,00 หุ้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 8,880,000 หุ้น

นอกจากนี้อาจจัดสรรหุ้นส่วนเกินไม่เกิน 56,160,000 หุ้น รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 521,200,000 หุ้น หรือไม่เกิน 28.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายครั้งนี้ กรณีมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญส่วนเกินทั้งจำนวน

อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา

ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นส่วนเกินเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นที่เสนอขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่หุ้นของ DOHOME เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก โดยเป็นการให้สิทธิแก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (หนึ่งในผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย) สามารถช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น ในช่วงที่สภาวะตลาดอาจมีความผันผวนซึ่งอาจมีโอกาสทำให้ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเสนอขายได้

นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูโฮม เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาและนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายและครบถ้วน ในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ภายใต้แนวคิด “ครบ ถูก ดี…ที่ดูโฮม” มาเป็นระยะเวลากว่า 36 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย

ปัจจุบัน DOHOME มีสาขา 9 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 บางบัวทอง เชียงใหม่ และบางนา โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าประมาณ 35,000 – 65,000 ตารางเมตรต่อสาขา รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่งที่จังหวัดปทุมธานี โดยแบ่งสินค้าที่จำหน่ายออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มวัสดุซ่อมแซม และกลุ่มวัสดุตกแต่ง รวมรายการสินค้ามากกว่า 135,000 รายการ (SKUs)

นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของ DOHOME (House Brand) มากกว่า 20,000 รายการ (SKUs) เช่น เครื่องมือช่าง ฮาร์ดแวร์ ประตู-หน้าต่าง กระเบื้อง สุขภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เป็นต้น

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม กล่าวว่า DOHOME มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งโดยในปี 2561 มีรายได้รวม 18,535.17 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุก่อสร้างประมาณ 46 – 49% สัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุซ่อมแซมประมาณ 35 – 38% และสัดส่วนรายได้จากกลุ่มวัสดุตกแต่งประมาณ 15 – 17%

สลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ

นอกจากนี้ในไตรมาส 1/62 DOHOME มีรายได้รวม 4,980.24 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 246.68 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 4,940.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 185.63 ล้านบาท เนื่องจากมีสัดส่วนการขายสินค้า House Brand เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง

ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้า House Brand ในปี 2559-2561 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 11.4% 14.3% และ 14.4% ของรายได้จากการขายและค่าบริการตามลำดับ โดยในไตรมาส 1/62 มีสัดส่วนอยู่ที่ 14.5% พร้อมวางเป้าหมายภายในปี 2565 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้า House Brand เป็น 20% ของรายได้จากการขายและค่าบริการรวม

“DOHOME วางแผนขยายสาขาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ผ่านเป้าหมายการเปิดสาขาขนาดใหญ่รูปแบบใหม่ที่มีขนาดพื้นที่เล็กลง โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้าเฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 23,000 ตารางเมตร รวม 7 สาขา ภายในปี 2564 ในหัวเมืองที่สำคัญ รวมถึงพัฒนาโมเดลขยายสาขาขนาดเล็กภายใต้ชื่อ “Dohome To Go” ซึ่งมีพื้นที่เฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 300 – 1,000 ตารางเมตร รวม 90 สาขา ภายในปี 2564 โดยมีแผนเปิดให้บริการในพื้นที่ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้ารายย่อยโดย เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซมตกแต่งบ้าน และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการขยายสาขาของ DOHOME อย่างต่อเนื่องในอนาคต”นางสลิลทิพ กล่าว