MITSIB ยันผู้บริหารไม่ได้ขายหุ้นฉุดราคาต่ำจอง ตั้งเป้าเติบโตระยะยาว

HoonSmart.com>> “มิตรสิบ ลิสซิ่ง” ยืนยันกลุ่มผู้บริหารไม่ได้เทขายหุ้นออก หลังราคาต่ำจอง ตั้งเป้าเติบโตระยะยาว เดินหน้าตามแผน พร้อมตั้งเป้าปี 2563 คาดรายได้จากธุรกิจใหม่จะเพิ่มเป็น 20-25% ส่วนธุรกิจเดิมสัดส่วนจะเป็น 75-80% เติบโตยั่งยืน

นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง (MITSIB) เปิดเผยว่า ภายหลังนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามแผนที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีการเทขายหุ้นในตลาดอย่างแน่นอน อีกทั้งก่อนหน้านี้ ผู้บริหารเดิมได้มีความยินยอมพร้อมใจ และมีมติเป็นเอกฉันท์จากการประชุมผู้ถือหุ้น ว่าจะไม่มีการขายหุ้นที่ถืออยู่ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนเข้าจดทะเบียนเข้าซื้อขาย

ทั้งนี้ ราคาหุ้น MITSIB เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาปิด 2.44 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอขายประชาชนทั่วไป (IPO) หุ้นละ 2.50 บาท แม้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.จะมีแรงซื้อกลับมาประคองราคาเท่า IPO แต่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ก็ลดลงต่ำกว่าจองอีกครั้ง ปิดที่ 2.46 บาท

ล่าสุด เวลา 16.14 น. ราคาหุ้น MITSIB อยู่ที่ 2.46 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 22.61 ล้านบาท

“ผมในตัวแทนผู้ถือหุ้นเดิมขอยืนยันว่ากลุ่มผู้บริหารเราไม่มีการเทขายหุ้นตามที่มีการสงสัยแน่นอน อีกทั้งเราได้มีการหารือในที่ประชุม ผู้ถือหุ้นเดิมทุกท่านต่างมีความสมัครใจ ว่าจะไม่มีการนำหุ้นที่ถืออยู่ออกมาขาย และจากที่ผมได้รายงาน ก.ล.ต. ไปเมื่อวานนี้ ผมยังได้มีการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่ม เพื่อยืนยันความมั่นใจในพื้นฐานหุ้น อีกทั้งการที่ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกันมายาวนานกว่า 16 ปี กลุ่มผู้บริหารทุกท่านต่างมีความมั่นใจในศักยภาพของหุ้นที่สามารถเติบโตได้ เรายังมีแผนการในอนาคตที่รองรับการเติบโตของธุรกิจที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว” นายนิติพัทญ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตในส่วนของธุรกิจเดิมเพิ่มขึ้นประมาณ 30-35% จากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ ณ สิ้นปี 2561 ที่ 3,000 สัญญา โดยมีมูลค่ากว่า 1,500-1,600 ล้านบาท

นายนิติพัทญ์ กล่าวเพิ่มว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เงินไอพีโอเข้ามาแล้ว จะนำส่วนหนึ่งไปชำระหนี้จากสถาบันการเงิน ช่วยสนับสนุนในส่วนธุรกิจใหม่ ส่งผลให้โครงสร้างรายได้บริษัทปีนี้จะมาจากธุรกิจเดิมประมาณ 90% และอีก 10% เป็นธุรกิจใหม่ (สินเชื่อภายใต้การกำกับของ ธปท. และธุรกิจประกันภัย) และในปี 2563 คาดรายได้จากธุรกิจใหม่จะเพิ่มเป็น 20-25% ส่วนธุรกิจเดิมสัดส่วนจะเป็น 75-80%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการในอนาคตที่รองรับการเติบโตของธุรกิจที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เช่น การให้บริการแอพพลิเคชั่นใหม่ ภายใต้ชื่อ APP TAXI ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทไทยที่ประกอบกิจการด้านรถแท็กซี่ และบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพด้านอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว อนึ่ง MITSIB เข้าเทรดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยราคาเปิดที่ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากราคาขาย IPO