HoonSmart.com>>สายการบินนกแอร์” เปิดทิศทางฟื้นธุรกิจ 3 แนวทางหลัก ขายเส้นทางบินต่างประเทศ สานต่อพันธมิตร ขยายเครือข่ายและบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจหลุดพ้นเครื่องหมาย C
บริษัท สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2562 บริษัทฯ ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องในการที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย C เนื่องจากมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2562 ว่า ทิศทางของบริษัทในอนาคตมี 3 แนวทางหลัก คือ 1.ขยายเส้นทางการบินต่างประเทศ ทำให้มีรายไดัเพิ่มประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยลดลง เนื่องจากการใช้ฝูงบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.สานต่อพันธมิตรทางธุรกิจที่มีอยู่ปัจจุบันเพื่่อจะขยายเครือข่ายได้มากขึ้นและ 3.บริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับแนวทางแก้ไข จากการประชุครั้งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดทำแผนฟื้นฟูธุรกิจ รวมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่่างรอบคอบ โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการบางส่วนแล้วและยังมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน โดยการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับแนวทางการตลาดให้เน้นขยายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาต่อหน่วยสูงขึ้น รวมทั้งการจัดหาพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดเฉพาะพันธิตรธุรกิจสายการบินเท่านั้น
นอกจากนี้อยู่ระหว่างการขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศและการเพิ่มรายได้อื่นนอกเหนือจากรายได้จากค่าโดยสารและ 5.การสื่อสารให้ผู้โดยสารเกิดความเชื่อมั่นต่อบริษัท โดยเฉพาะเรื่องของการมีเที่ยวบินที่ตรงต่อเวลา
ส่วนแผนการลดทุนต้นในการดำเนินงานได้ปรับปรุงการนำเครื่องบิน ATR2 ลำออกจากฝูงบินในเดือนก.พ.2562 ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 6.4% ในไตราส 4/2561 และไตรมาส 1/2562 โดยค่าใช้จ่ายหลักจากค่าเช่าเครื่องบินและค่าซ่อมบำรุงเครื่องบิน อย่างไรก็ตามแม้ว่าจำนวนเครื่องบินจะลดลงแต่บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารต่อลำไดีขึ้นจากการเพิ่มเที่ยวบิน เช่นเส้นทางเช่าเหมาลำ ดอนเมือง-ฮิโรชิม่าและเส้นทางเหมาลำอื่นสู่ประเทศจีน ซึ่งทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินต่อลำต่อวันได้เพิ่มขึ้นจาก 9.48 ชั่วโมง เป็น 9.71 ชั่วโมง ในไตรมาส 4/2561 และในไตรมาส 1/2562
นอกจากนี้บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการ การรักษามาตรฐานความตรงต่อเวลาของเที่ยวบิน เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากความล่าช่าของเครื่องบินอย่างรวดเร็วและแมนยำ แและในปี 2561 ที่ผ่านมาบริษัทสร้าวชื่อเสียงให้ประเทศได้รับรางวัลดีเด่นในประเภท Reliabity Award (เครื่องบินรุ่น Q400) จากบอมบาร์ดิเอร์ โดยนกแอร์เป็นสายการบินเดียวในโลกที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
การเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบิน โดยเพิ่มการบินในเวลากลางคืน, การบริหารจัดการคาใช้่จ่ายในการซ่อมบำรุงเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, การปรับปรุงการบริหารงานด้านการให้บริการภาคพื้นดิน, การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้มีระยะทางการบินที่ยาวขึ้นและการลดอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยบริหารจัดการแผนการนำเครื่องขึ้นและลงจอด
ทั้งนี้ สาเหตุที่่ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% เป็นผลมาจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ การปรับปรุงด้านรายได้ ประสิทธฺภาพของการบริหารต้นทุนในการดำเนินงาน ความตรงต่อเวาของเที่ยวบินที่ลดลงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสาร