AGEกำไร Q1โต 195% มั่นใจทั้งปีรายได้ตามเป้า

AGE โค้งแรกกวาดยอดขายถ่านหินเพิ่มหนุนรายได้ 1.59 พันล้าน กำไรสุทธิโต 195% “พนม ควรสถาพร” ตั้งเป้ารายได้รวมปี 61 โต 20-25% ลุยตลาดถ่านหินในประเทศและธุรกิจโลจิสติกส์ขนส่งทางน้ำเต็มสูบ

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2561 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,591.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 1,509.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 82.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและกำไรสุทธิ อยู่ที่ 32.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 195.5%

รายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน โดยปริมาณการขายในประเทศอยู่ที่ 0.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณการขายในต่างประเทศอยู่ที่ 0.14 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 139.1 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทฯมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 0.73 ล้านตัน อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้มีรายการพิเศษซึ่งจะบันทึกเพียงครั้งเดียว เป็นการบันทึกค่าเสียหายจากคดีฟ้องร้อง 30.27 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 56.35 ล้านบาท

“ไตรมาส 1/2561 เติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลจากกลยุทธ์การขยายตลาดหลากหลายทั้งในประเทศ ที่มีการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม มีความต้องการใช้ถ่านหิน เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆมากขึ้น และบริษัทฯเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์” นายพนม กล่าว

อีกทั้งธุรกิจด้านโลจิสติกส์ด้านการขนส่งทางน้ำ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมสั่งต่อเรือโป๊ะเพิ่มอีก 10 ลำ เพื่อการรองรับรองรับการขยายตัวของลูกค้าที่จะเติบโตมากขึ้น ทั้งการนำเข้าและส่งออก ส่งผลให้ภายในต้นปีหน้าบริษัทฯจะมีเรือโป๊ะ ทั้งหมด 22 ลำ นอกจากนี้บริษัทได้ปรับปรุงพื้นที่จากที่ดินที่ซื้อเพิ่มเติมในช่วงปี 2560 เพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อเพิ่ม พื้นที่กองเก็บถ่านหิน และพื้นที่ให้บริการคลังสินค้า ซึ่งคาดว่าส่วนแรก จะเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561

อย่างไรก็ตามจากกลยุทธ์ช่องทางการขยายธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่าอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2561 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมีปริมาณการขายถ่านหินที่ 20-25% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และในประเทศจะอยู่ที่ 80% และมียอดขายถ่านหินทั้งปี ที่ระดับ 3 ล้านตัน และรายได้จากธุรกิจการให้บริการในคลังสินค้า ขนสินค้าผ่านท่าเรือ และให้บริการขนส่งทางน้ำทางบกแบบครบวงจรเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น