HoonSmart.com >> “ไทย อิงเกอร์ฯ” เปิดผลงานปี 61 ตามเป้ากำไรสุทธิ 89.77 ล้านบาท เติบโต 23.76% ลุยรับงานโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท แจกปันผล 0.10 บาท/หุ้น CEO คาดปีนี้โตทะยานเกิน 50% หลังตุนแบ็กล็อคกว่า 1,200 ล้านบาท เผยไตรมาสแรกมีลุ้นจ่อคว้างานโครงการใหม่หนุนแบ็กล็อคเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท มั่นใจหนุนเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง
นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง (TIGER) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดปี 2561 มีกำไรสุทธิ 89.77 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 82.70 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิของส่วนงานที่ 66.82 ล้านบาท ส่วนรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 780.46 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26.93% จากปีงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 614. 85 ล้านบาท
การที่บริษัทฯ มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 2561 มีจำนวนโครงการที่ดำเนินการระหว่างปีเพิ่มขึ้นมาเป็น 15 โครงการจากปีก่อนมีเพียง 9 โครงการ โดยเป็นโครงการใหม่ที่ประมูลและเริ่มดำเนินการก่อสร้างในระหว่างปี 2561 จำนวน 8 โครงการ มีมูลค่าสัญญารวมกว่า 700 ล้านบาท
ขณะเดียวกันสัดส่วนรายได้โครงการของเอกชน ประเภทงานกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 29.73% จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 13.56% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง มีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น 8.84% จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 0.64%
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการเติบโตมาจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานก่อสร้างของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทมีสัดส่วนที่สูงขึ้นมากหากเทียบจากปีก่อน ซึ่งเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และมีความสามารถในการบริหารต้นทุนทำให้ความสามารถทำกำไรเป็นไปในทิศทางที่ดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 46.00 ล้านบาท ทั้งนี้จะจัดการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 เมษายน 2562 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 12 มีนาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2561
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ก้าวกระโดดหรือมากกว่า 50%จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากยอดงานในมือรับรู้รายได้ (Backlog) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 85% รวมกับรายได้จากธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ระหว่างการรอผลสรุปงานโครงการใหม่เพิ่มเติม โดยบริษัทฯได้ยื่นประมูลไปแล้ว 2-3 โครงการ มีมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในต้นปีนี้
นายจตุรงค์ กล่าวว่า สำหรับงานโครงการที่ยื่นประมูลไปแล้วและอยู่ระหว่างรอประกาศผลอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย โครงการงานตกแต่งภายในและงานระบบเพิ่มเติมของอาคาร โรงแรมวี วิลล่า อ่าวยนต์ จังหวัดภูเก็ต มูลค่า 100 กว่าล้านบาท งานโครงการสร้างโรงงานผลิตเอทานอล และอาคารที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 900 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ได้งานแล้ว และจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ เช่น โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสะเดา ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา มูลค่า 550 ล้านบาท โดยมีขอบข่ายงานปรับปรุงพื้นที่ งานถนนและระบบระบายน้ำ งานระบบสาธารณูปโภค และงานอาคารที่เกี่ยวข้องระยะเวลาการดำเนินงาน 540 วัน หลังจากมีการลงนามในสัญญาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะลงนามและเริ่มงานก่อสร้างภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562