HoonSmart.com >> บอร์ดบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชงผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท พร้อมแจกปันผลผู้ถือหุ้น 0.28 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.68 บาท/หุ้น ด้านผลงานปี 61 กำไรหด 38% เหลือ 391 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้าและบริการหด
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท หรือในเงินสกุลอื่นในจำนวนเทียบเท่า อายุไม่เกิน 3 ปี เสนอขายภายในประเทศและหรือต่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและหรือผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงและหรือผู้ลงทุนรายใหญ่และหรือผู้ลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจเสนอขายครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือเสนอขายเป็นคราวๆ ไป
นอกจากนี้ให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกในอัตรา 0.28 บาทต่อหุ้น โดยเป็นกำไรสุทธิและกำไรสะสมจาก 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2561 รวมอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2561 เท่ากับ 0.68 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 99% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 0.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งจ่ายไปเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2561 คงเหลือปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกในอัตรา 0.28 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 1 มี.ค.2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 เม.ย.2562
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2561 มีกำไรสุทธิ 391.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.69 บาท ลดลง 38.73% จากงวดปี 2560 มีกำไรสุทธิ 638.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.12 บาท
สาเหตุที่กำไรลดลงเป็นผลจากรายได้ค่านายหน้าลดลง 223.30 ล้านบาท หรือ 11.29% เหลือ 1,754.60 ล้านบาท โดยรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 14.62% หรือ 268.95 ล้านบาท เหลือ 1m571 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 25.85 ล้านบาท หรือ 18.74% เป็น 163.80 ล้านบาท ส่วนรายได้ค่านายหน้าอื่นส่วนใหญ่เป็นรายได้ค่านายหน้าจากการเสนอซื้อหลักทรัพย์จากประชาชนทั่วไปของลูกค้าเพิ่มขึ้น 19.80 ล้านบาท จากปีก่อนไม่มี
ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 197.74 ล้านบาท หรือ 72.37% เหลือ 75.49 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ลดลง 147.68 ล้านบาท ที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 38.37 ล้านบาทและค่าธรรมเนียมและบริการอื่นลดลง 11.69 ล้านบาท อีกทั้งมีกำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ลดลง 80.13 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 161.42 ล้านบาท หรือ 6.56% เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายอื่นลดลง 70 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานลด 44 ล้านบาท หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 22 ล้านบาท