“จิรวุฒิ คุวานันท์” ประธานใหญ่แห่งโคว้ยู่ฮะมอเตอร์ ดีลเลอร์ใหญ่อีซูซุ เข้าตลาดหุ้นทางอ้อมสำเร็จ หลังซื้อหุ้น DIGI ล็อตสอง 21.42% จากปรเมษฐ์ เมื่อต้นปี 2561 กอดไว้แล้ว 20% ผงาดถือหุ้นใหญ่ 41.42% ตั๊งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายย่อย 21 สตางค์/ หุ้น ต่ำกว่าตลาด ราคาซิลลิ่งต่อเป็นวันที่ 2 รอธุรกิจใหม่หนุนบริษัท หลุดเครื่องหมาย C เลียนแบบรุ่นพี่เปลี่ยนเจ้าของ ใส่ธุรกิจใหม่ หุ้นพุ่งหลายเท่าตัว เปิดพอร์ต”จิรวุฒิ” เฉียด 1,500 ล้านบาท ถือหุ้นใหญ่ 7 บริษัท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งให้บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต (DIGI)ชี้แจง กรณีมีการซื้อขายหุ้นรายการใหญ่(บิ๊กล็อต) และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% (ซิลลิ่ง) เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทชี้แจงว่า นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 21.42% ให้กับ นายจิรวุฒิ คุวานันท์ ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยนไป คือ นายจิรวุฒิ ขึ้นมาถือหุ้นใหญ่ที่สุด 41% และจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไป(เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ในราคาหุ้นละ 0.21 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้น DIGI วันที่ 15 ม.ค. ดีดตัวขึ้นชนเพดานต่อเป็นวันที่ 2 ปิดที่ 0.33 บาท บวก 0.07บาทหรือ 26.92% มูลค่าการซื้อขาย 7 ล้านบาท ไม่มากเหมือนวันแรกเทรดสนั่น 73 ล้านบาท
นายจิรวุฒิ คุวานันท์ ประธานใหญ่แห่งโคว้ยูฮะมอเตอร์ ดีลเลอร์ใหญ่อีซูซุในภาคอีสาน เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ปัจจุบันถือหุ้นใหญ่ในบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง มูลค่ารวมเฉียด 1,500 ล้านบาท แต่การเข้ามาลงทุนในหุ้น DIGI ครั้งนี้ แตกต่างกว่าบริษัทแห่งอื่น เนื่องจากมีการวางแผนและดำเนินการมาเป็นปี คือเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2561 ได้ซื้อหุ้นจำนวน 316.08 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ต่อจากนายปรเมษฐ์ ตอนนั้นนายปรเมษฐ์ รายงานว่าคงเหลือหุ้นจำนวน 501 ล้านหุ้น 32.97% แต่เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561 เปิดเผยว่าถืออยู่จำนวน 338 ล้านหุ้น หรือ 21.42%
ในระหว่างทางกว่าจะมาถึงวันนี้ บริษัทได้มีการทยอยขายทรัพย์สินออกไป เช่น อาคาร ABOVE 39 ให้กับ ไซมิส เวลท์ ทำให้บริษัทมีทรัพย์สินลดลง เหลือเพียง 378 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนก.ย. 2561 เปรียบเทียบกับเมื่อสิ้นปี 2560 ที่มีทรัพย์สินมูลค่า 992.63 ล้านบาท เพื่อให้ราคาหุ้นที่จะซื้อขายล็อตใหม่ลดลง และสามารถใส่ธุรกิจใหม่เข้ามาแทนการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิมได้ง่ายขึ้น
” ไม่รู้ว่านายจิรวุฒิ จะใส่ธุรกิจใหม่อะไรเข้ามาใน DIGI แต่เชื่อว่าจะพลิกฟื้นบริษัท ให้มีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากประสบปัญหาการขาดทุนติดต่อกันนานกว่า 4 ปี (2558-2561) รวมทั้งสิ้น 616 ล้านบาท จนส่วนของผู้ถือหุ้น เหลือน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และถูกติดเครื่องหมาย C ”
การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่และจะมีธุรกิจใหม่เข้ามาใน DIGI จุดพลุให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นจนซิลลิ่งอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C รวมถึงหุ้นที่ประสบปัญหาขาดทุนมานาน อาทิ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) ไล่ราคาจากหุ้นละไม่ถึง 1 บาท ขึ้นมาซื้อขายบริเวณ 2.50 บาท รวมถึงบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN) และ บริษัท สกาย ไอซีที หรือ SKY
สำหรับ นายปรเมษฐ์ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2561 สำนักงานก.ล.ต.ได้ลงโทษทางแพ่งและสั่งห้ามนายปรเมษฐ์ เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็น เวลา 3 ปี ทำให้นายปรเมษฐ์พ้นจากตำแหน่งกรรมการและประธสนเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท DIGI ในวันเดียวกัน