“วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์” ไม่กังวลตลาดไอพีโอตกต่ำ คาดเสนอขายหุ้นภายในกลางปีนี้ หวังเลือกตั้งหนุนตลาดคึกคัก ส่วนการตั้งราคาขาย ยังไม่รับปากให้ส่วนลดพิเศษ เงินที่ระดมทุนได้ ใช้คืนหนี้ลดฮวบ และขยายกองเรือ
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ (VL)เปิดเผยว่า VL ตั้งเป้าจะขายหุ้นจำนวน 280 ล้านหุ้น ภายในครึ่งแรกของปี 2562 รอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ส่วนเรื่องราคาขาย ปกติจะให้ส่วนลด 15-30% จากราคาพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ประเมิน VL จะให้ส่วนลดมากกว่าปกติหรือไม่ จะต้องรอดูภาวะตลาดหุ้นและราคาพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ประเมินด้วย
“เราเลือกขายหุ้นช่วงกลางปี เพราะมองว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็คงจะทำให้ตลาดกลับมาดี น่าจะเป็นผลดีต่อหุ้น VL ด้วย”นายเอกจักร กล่าว
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุน VL มีแผนที่จะไปลงทุนขยายกองเรือ อาจจะเป็นการต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสอง ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มเรือใหม่ปีละ 2-3 ลำ
บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ หุ้นที่เสนอขายแบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% และหุ้นของนางชุติภา กลิ่นสุวรรณ 80 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า บริษัทมีรายได้หลักประมาณ 80% จากค่าเช่าเรือประจำเพื่อขนส่ง มีระยะเวลาเช่า 3 ปี ส่วนรายได้ 20% มาจากค่าเช่าเป็นเที่ยว มาจากเรือจำนวน 2 ลำ โดยขนสินค้าในต่างประเทศเป็นหลัก สร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยมีแผนขยายฐานลูกค้าเช่าเรือประจำ และเพิ่มเส้นทางขนส่งไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียน
ปัจจุบันบริษัทมีเรือให้บริการทั้งหมด 12 ลำ อายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี มีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081 เดทเวทตัน (DWT) และบรรจุน้ำมัน ขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร
นางชุติภา กล่าวอีกว่า ลูกค้ารายใหญ่ VL ได้แก่บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) หรือ ESSO, บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP),บริษัท เชฟรอน(ประเทศไทย) และบริษัท ไออาร์พีซี (IRPC)
น.ส.รักชนก สำเนียงล้ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน VL กล่าวว่า ราคาน้ำมันไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เพราะใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 20-30% ส่วนอีก 70% เป็นน้ำมันเตา ในการทำสัญญาเช่าเรือประจำ บริษัทนำราคาดีเซลรวมอยู่ในค่าบริการ ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังขายหุ้นไอพีโอนำไปชำระหนี้ จะทำให้หนี้สินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ