ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 8% รับสัญญาณอาจลดกำลังผลิตลงอีก

ราคาน้ำมันดิบพุ่งรับโอเปกและพันธมิตรส่งสัญญาณอาจเรียกประชุมนอกรอบ หากอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด หนุน WTI ปิดบวก 3.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ (โอเปก) และประเทศพันธมิตรเตรียมพร้อมที่จะจัดการประชุมนอกรอบหากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 1.2ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังไม่สามารถสร้างสมดุลในตลาดได้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอิรัก คาดการณ์ว่าการตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบอาจจะมีการทบทวนอีกครั้ง และอิรักเตรียมที่จะให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตในเดือน เม.ย. 2562

ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันที่ 26 ธ.ค. 61 เวสต์เท็กซัส ปิด 46.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ หรือ 8.7% เบรนท์ ปิด 54.47 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.00 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไร เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างหนักรวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด

อย่างไรก็ตามผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันในประเทศรัสเซียระบุสาเหตุหลักของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้ เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4ในปีนี้ ประกอบกับประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต

สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง, อุปทานน้ำมันดิบโลกคาดปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก คาดว่าแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ElShararaซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของลิเบียจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโรงกลั่นดำเนินการด้วยอัตราการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับอุปทานน้ำมันดีเซลและอากาศยานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว