GPSC พร้อมเดินหน้าเข้าซื้อหุ้น GLOW หลัง กกพ.ไฟเขียว รอ Engie ขายโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1 แล้วเสร็จ คาดราคาซื้อ GLOW ต่ำลงเหลือ 90 บาท/หุ้น
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ พร้อมเดินหน้าซื้อกิจการบริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW) จากกลุ่ม Engie ในสัดส่วน 69.11% จาก Engie Global Development B.V. (Engie) ต่อไป หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าเข้าสู่การทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ส่วนที่เหลือ
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติแผนการเข้าซื้อกิจการ GLOW โดยตัดการซื้อโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1 ออกนั้น ทำให้มูลค่าการซื้อกิจการลดลงจากเดิม แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกิจการส่วนใหญ่ จึงไม่กระทบต่อแผนทางการเงินที่จะใช้รองรับการเข้าซื้อกิจการที่เบื้องต้นจะกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อเข้าซื้อหุ้นจาก Engie และในอนาคตก็จะเพิ่มทุนจดทะเบียนตามแผนเดิม
“แผนเรายังเดินตามแผนเดิมทุกอย่าง ขนาดกิจการตัดออกไปไม่ได้มีนัยสำคัญเทียบกับส่วนใหญ่ที่เราเข้าซื้อกิจการ ที่ตัดออกไปก็เป็นมูลค่ายุติธรรม ซึ่งไม่กระทบต่อแผนทางการเงินที่จะใช้ลงทุน” นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวว่า บริษัทยังไม่สามารถระบุมูลค่าของโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1 และกรอบเวลาการเข้าซื้อกิจการ GLOW ได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด ขึ้นกับ GLOW ว่าจะขายโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1 ได้เมื่อใด ซึ่งหากแล้วเสร็จทางบริษัทก็พร้อมเดินหน้าทันที รวมทั้งพร้อมปฎิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติมทั้ง 11 ข้อที่ กกพ.กำหนด
สำหรับโครงการโกลว์ เอสพีพี 1 ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) ไฟฟ้า 124 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 90 ตัน/ชั่วโมง เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.41
ทั้งนี้ คาดใช้เวลาไม่นาน เพราะปัจจุบันมีผู้ที่จะซื้อโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1 แล้ว ขณะที่การตัดสินทรัพย์ดังกล่าวออกจากการเข้าซื้อกิจการ GLOW ส่งผลให้ราคาหุ้น GLOW ที่จะซื้อเหลือประมาณ 90 บาท/หุ้น จากเดิม 94.89 บาท
ตามแผนเดิม GPSC มีแผนจะซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมดภายใต้วงเงินรวมประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยส่วนแรกจะเป็นการซื้อหุ้น 69.11% จากกลุ่ม Engie ในวงเงินรวม 9.59 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นจะทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ส่วนที่เหลือ โดยแหล่งเงินมาจากเงินกู้ระยะสั้น 1 ปี ซึ่งมาจากเงินกู้จาก บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) จำนวนรวม 3.5 หมื่นล้านบาท และกู้จากสถาบันการเงิน 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงไทย (SCB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) รวมราว 1.1 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้นดังกล่าว กำหนดให้บริษัทต้องดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท รวมถึงการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทภายในเดือน เม.ย.62 เพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัท โดยเบื้องต้นบริษัทอาจพิจารณาเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 7.4 หมื่นล้านบาท
ขณะที่การเข้าซื้อกิจการ GLOW จะทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทเพิ่มเป็นราว 5,000 เมกะวัตต์ (MW) โดยกำลังผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก และมีการลงทุนในต่างประเทศบ้าง เช่น ลาว, ญี่ปุ่น ขณะที่ GLOW ยังมีการโครงการในมือ ซึ่งเป็นโครงการพลังน้ำในเมียนมาด้วย
อ่านประกอบ