ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแกะข้อมูลระบบแบงก์ 14 แห่ง สินเชื่อธุรกิจและรายย่อยหนุนยอดรวมเดือนพ.ย.เพิ่มต่อเนื่องเดือนที่สอง อยู่ที่ 11.51 ล้านล้านบาท ส่วนเงินฝากลดลง หลังเงินไหลบ่าเข้าแบงก์ใหญ่มากเดือนต.ค.ระบบมีสภาพคล่องสูงกว่า 3.6 ล้านล้านบาท แนวโน้มปี 2562 คาดสินเชื่อโตแค่ 5% รายย่อยชะลอตามอสังหาฯ-เช่าซื้อรถยนต์ แบงก์มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ หากธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง รายงานสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1)ว่า สินเชื่อสุทธิเดือน พ.ย.2561 เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เกิน 8 หมื่นล้านบาทติดต่อกันเป็นเดือนที่สองเพิ่มขึ้น 0.76% มาอยู่ที่ 11.515 ล้านล้านบาท สูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อน 6.20%
“สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างกระจายตัวไปยังทุกธนาคาร โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท และสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อเอสเอ็มอี ยังมีทิศทางขยับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน “บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ
ส่วนเงินฝากเดือน พ.ย. 2561 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 6.2 หมื่นล้านบาท หรือ 0.49% มาที่ 12.442 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หลังจากที่มีเงินฝากไหลเข้าจำนวนมากในเดือนก่อน ถึง 2.28 แสนล้านบาท การเคลื่อนไหวของเงินฝากในเดือนพ.ย.สะท้อนภาพการบริหารจัดการสภาพคล่องที่แตกต่างกัน ขณะที่ยอดคงค้างเงินฝากของกลุ่มธนาคารขนาดกลางขยับขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม สำหรับภาพรวมเงินฝากในช่วง 11 เดือนแรก เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.01%
ภาพรวมสภาพคล่องของธนาคาร 14 แห่ง ยังอยู่ในระดับสูงที่กว่า 3.6 ล้านล้านบาท โดยปรับลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน เนื่องจากทิศทางสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับเงินฝากและเงินกู้ยืมที่ชะลอลง อย่างไรก็ดี สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากที่รวมตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ปรับขึ้นมาที่ 87.85% ในเดือนพ.ย.จากระดับ 86.72% ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ปรับลดลงเป็น 21.03% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 21.64% ในเดือน ต.ค.
สำหรับสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ปี 2561 จะขยายตัวเข้าใกล้ตัวเลขประมาณการที่ 6.0% ได้ โดยมีแรงหนุนในช่วงโค้งสุดท้าย จากสินเชื่อรายย่อย และการเบิกใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจตามปัจจัยด้านฤดูกาล
แนวโน้มในปี 2562 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมาที่ประมาณ 5.0% ตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อที่มีโอกาสเติบโตได้ดีต่อเนื่อง น่าจะเป็นสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่ สินเชื่อรายย่อยโดยรวม คงชะลอลงตามสถานการณ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถ ที่เปรียบเทียบกับฐานที่เร่งตัวขึ้นค่อนข้างมากในปี 2561
นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระหว่างปี 2562 คงมีผลต่อการดำเนินนโยบายเครดิตที่ระมัดระวัง เพื่อจำกัดขอบเขตความเสี่ยงและบรรเทาภาระการกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ก่อนที่ธนาคารจะเข้าสู่มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 ที่จะมีผล 1 ม.ค. 2563
“สภาพคล่องโดยรวมของธนาคารที่ยังสูง คงช่วยยืดระยะเวลาการขยับอัตราดอกเบี้ยในระบบออกไปได้บ้าง แต่ก็คงต้องยอมรับว่า มีโอกาสที่จะเริ่มขยับขึ้น โดยเฉพาะ หากธนาคารแห่งประเทศไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในระหว่างปี 2562 “บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ
