ดาวโจนส์ปิดบวก 289 จุด หุ้นค้าปลีก-เทคโนโลยีหนุน

HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 28 พ.ย. 2568 ปิดที่ 47,716.42 จุด เพิ่มขึ้น 289.30 จุด หรือ +0.61% ปริมาณการซื้อขายเบาบางในช่วงการซื้อขายสั้นๆ เพราะตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติหลังวันขอบคุณพระเจ้า โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นค้าปลีกและหุ้นเทคโนโลยี

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,849.09 จุด เพิ่มขึ้น 36.48 จุด, +0.54%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,365.69 จุด เพิ่มขึ้น 151.00 จุด, +0.65%

ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในเดือนธ.ค.มีตลอดทั้งสัปดาห์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นโดยรวมดีขึ้น ซึ่งบรรดานักลงทุนเริ่มมีความคาดหวังสูงขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง นับตั้งแต่ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยังมีโอกาสที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในระยะใกล้ๆ

ไบรอัน มัลเบอร์รี ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอลูกค้าของ Zacks Investment Management กล่าวกับ CNBC ว่า บรรยากาศเริ่มกลับมามีแนวโน้มรับความเสี่ยงมากขึ้นเล็กน้อย โดยขณะนี้ตลาดมอว่ามีความแน่นอน 80% ถึง 85% ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

หากปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในเดือนธ.ค. ก็จะเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันที่ธนาคารกลางดำเนินการหลังจากการประชุมในเดือนก.ย.และต.ค.ที่ผ่านมา

หุ้นหลักในดัชนี S&P 500 ทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นหุ้นกลุ่มสุขภาพ โดยหุ้น Eli Lilly ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มยา ลดลง 2.6%

หุ้น Intel ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ด้วยการเพิ่มขึ้น 10.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของ TF International Securities กล่าวว่าบริษัทจะเริ่มส่งมอบโปรเซสเซอร์ M ระดับต่ำสุดของ Apple เร็วที่สุดในปี 2027

วันศุกร์เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนพ.ย. การย่อตัวของหุ้นเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อดัชนีหลัก ส่งผลให้ในรอบเดือน ดัชนี Nasdaq ลดลงเกือบ 2% ท่ามกลางความกังขาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของบริษัท AI ส่วนดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% และดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.3% ตามลำดับ ถือเป็นเดือนที่ปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 3.18%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.73% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 4.91%

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เป็นการปิดท้ายสัปดาห์ และปิดเดือนอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นต่อความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 ตลาดหุ้นเยอรมนีและฝรั่งเศสก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 576.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด, +0.25%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,720.51 จุด เพิ่มขึ้น 26.58 จุด, +0.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,122.71 จุด เพิ่มขึ้น 23.24 จุด, +0.29%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,836.79 จุด เพิ่มขึ้น 68.83 จุด, +0.29%

นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนครั้งใหญ่ก่อนถึงช่วงสุดสัปดาห์ เพราะตลาดสหรัฐฯ ในวันศุกร์ปิดทำการเร็วกว่าปกติเนื่องจากเป็นวันหยุด
ความกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับฟองสบู่ AI ที่อาจเกิดขึ้นได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้นจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนธ.ค. หลังจากความเห็นในเชิงผ่อนคลายจากผู้กำหนดนโยบายและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

ดัชนีธนาคารโดยรวมทรงตัวส่งให้ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 4.5% โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากงบประมาณของสหราชอาณาจักร ที่ไม่มีการเก็บภาษีจากธนาคาร กลุ่มธนาคารยังทำผลงานดีที่สุดในเดือนนี้ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนปรับทิศลงทุนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าที่ผลักดันให้เกิดการเทขายหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกในเดือนนี้

ดัชนีอ้างอิงของสเปนที่เน้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นกว่า 2% ในเดือนพ.ย.

กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ปรับตัวขึ้นนำ โดยเพิ่มขึ้น 1.2% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาทองแดงที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และในรอบสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 5.7%

สัปดาห์หน้า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนบ้าง ภายใต้แรงกดดันจากวอชิงตัน ยูเครนได้ส่งสัญญาณสนับสนุนกรอบการเจรจาที่สหรัฐฯ ร่างขึ้น แต่ระบุว่าประเด็นสำคัญต้องได้รับการแก้ไข ขณะที่รัสเซียยืนกรานให้ยูเครนยอมสละดินแดนทางตะวันออกซึ่งเป็นแดนยุทธศาสตร์

หุ้นการบินอวกาศและการป้องกันประเทศของภูมิภาค ลดลงกว่า 8% ในเดือนพ.ย.
หุ้น Ferragamo กลุ่มบริษัทสินค้าหรูสัญชาติอิตาลี เพิ่มขึ้นถึง 2.3% หลังจากที่ JP Morgan ปรับคำแนะนำหุ้นของบริษัทเป็น กลางโดยอ้างถึงกระแสตอบรับที่ดีของแบรนด์

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบม.ค.ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 58.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–