HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับ 1,230 และ 1,215 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,265 และ 1,285 ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ย. -ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ทางด้านธนาคารกสิกรไทยมองค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ 32.00-32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จากสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน (นับตั้งแต่ 26 ก.ย.) ที่ 32.16 บาท นักลงทุนต่างชาติเข้าตลาดพันธบัตรไทย 9,774 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (1-5 ธ.ค. 2568) ว่าดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,230 และ 1,215 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,265 และ 1,285 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของไทยและทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและการบริการเดือนพ.ย. ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนพ.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของยูโรโซน
สัปดาห์ที่ผ่านมา SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงแรกก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค.หลังเจ้าหน้าที่เฟดระบุว่ายังมีพื้นที่ในการปรับลดดอกเบี้ย เพิ่มเติม
นอกจากนี้รายงานข่าวเกี่ยวกับการเห็นชอบมาตรการ Thailand FastPass ของภาครัฐเพื่อเร่งรัดการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปและกลุ่มเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นย่อตัวลงช่วงกลางสัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงปลายปี รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในภาพรวมจากเดิมที่มีความเปราะบางอยู่แล้วปัจจัยลบดังกล่าวกระตุ้นแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยีและพลังงาน ทั้งนี้แม้ดัชนีหุ้นจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย แต่ก็เป็นการฟื้นตัวได้เพียงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้น
ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,256.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.18% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 33,059.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.29% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.33% มาปิดที่ระดับ 214.32 จุด
ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่า ขณะที่ตลาดกลับมาคาดว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นี้
เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ มาหนุนประกอบกับตลาดมุ่งความสนใจไปที่สัญญาณของผู้ว่าการ
ธปท. ที่สะท้อนว่าดอกเบี้ยของไทยยังมีโอกาสปรับตัวลงในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าในช่วงต่อมา สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯเผชิญแรงขายตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดกระตุ้นให้ตลาดกลับมามองความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นี้
เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน (นับตั้งแต่ 26 ก.ย.) ที่ 32.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ
ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 พ.ย.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย. 2568 นั้นขายสุทธิหุ้นไทย 1,119 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 9,774 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 10,099 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 325 ล้านบาท)
———————————————————————————————————————————————————–
———————————————————————————————————————————————————–

