MAGURO เล็งรายได้ปี 68 โตเกินเป้า 30% ปีหน้ามีแผนขยายไม่ต่ำกว่า 15 สาขา

HoonSmart.com>>”มากุโระ กรุ๊ป”(MAGURO) เล็งรายได้ปี 68 โตเกินเป้า 30% ส่วนกำไรไตรมาส 4 ช่วง High Season มั่นใจโต QoQ ปี 69 มีแผนขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 15 สาขา ในแบรนด์ MAGURO, Tonkatsu AOKI แต่จะเน้น KIWAMIYA และ Bincho และยังจะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2-3 แบรนด์ในปีหน้า สำหรับ HITORI SHABU เจอศึกสุกี้เดือดก็ย่ำแย่แต่ตอนนี้กลับมาดีขึ้นแล้วหลังได้มีการปรับหลายอย่าง ส่วนกระแสข้าวญี่ปุ่นแพงขึ้น ส่งผลกระทบไม่มาก

นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป (MAGURO) เปิดเผยว่า รายได้ปี 2568 มีโอกาสที่จะทำได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 30% เพราะจนถึงตอนนี้ก็เห็นทำได้ถึง 40% แล้ว ส่วนกำไรยังต้องมาลุ้นกัน แต่ไตรมาส 4 เป็น High Season น่าจะเติบโตได้ ซึ่งหากเทียบ QoQ ก็น่าจะเติบโตได้

สำหรับปี 2569 บริษัทฯมีแผนขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 15 สาขา โดยจะขยายสาขา MAGURO, Tonkatsu AOKI แต่จะเน้น KIWAMIYA และ Bincho ที่เป็นน้องใหม่พึ่งเปิด ทำให้ปักหมุดได้ในหลายพื้นที่ และจะได้เห็นแบรนด์ใหม่อีก 2-3 แบรนด์ ในกลุ่มญี่ปุ่น เป็น Specialty และมีแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเอง

“SSSG ในไตรมาส 4 ดีกว่าไตรมาส 3 แต่ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้สุดท้ายจะจบประมาณไหน เพราะมีเดือนธ.ค.เป็น Critical period มันมีโอกาสที่จะทำให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่งเลย แต่ถ้าดูถึงเดือน 11 ก็ดีขึ้นกว่าไตรมาส 3 เรียบร้อยแล้ว”

ส่วนสถานการณ์ HITORI SHABU หลังจากเจอสภาวะการแข่งขันธุรกิจสุกี้ SSSG ของ HITORI SHABU ก็อยูในจุดที่เรียกว่าตกต่ำพอควร มาจากการแข่งขันเรื่องสุกี้ เรื่องบุปเฟ่ต์ อะไรต่าง ๆ ทำให้คนอยากไปลอง แต่หลังจากที่บริษัทฯได้มีการปรับหลายอย่าง มีการปรับเมนูใหม่ และพัฒนาการให้บริการ ความหลากหลายเมนู ทั้งหมดก็เริ่ม Activate ต้นเดือน 3 ตัวเลขก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ รวมถึงจำนวนลูกค้าด้วย ซึ่งจำนวนลูกค้าน่าจะเป็นตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญที่ดี ซึ่งกลับมาเป็นขาขึ้นได้เบา ๆ ละ ไตรมาส 4 ก็มีสัญญาณที่ดีอยู่

นายจักรกฤติ กล่าวว่า แม้ว่าข้าวญี่ปุ่นจะมีราคาแพงขึ้น แต่ผลกระทบมีน้อยกว่าตอนที่แซลมอนราคาขึ้น เพราะข้าวญี่ปุ่นคิดเป็นแค่ 1% ของวัตถุดิบทั้งหมด ผลกระทบจึงน้อย และเราก็เตรียมมาตรการในการหมุนเวียน เช่นว่า ข้าวขึ้นหรือวัตถุดิบบางตัวขึ้น จะหากำไรส่วนไหนมาชดเชย ซึ่งก็มีการดูเรื่องการนำเข้าสินค้า ก็จะดีลราคาที่ถูกลงในวัตถุดิบหลาย ๆ ตัวอยู่แล้ว ภาพใหญ่ ๆ ได้วัตถุดิบราคาถูกลง จึงไม่น่ากังวล

Tonkatsu AOKI แม้ยอดขายจะลง แต่ก็เป็นธรรมชาติของการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเมือง มีทั้ง One Bangkok, เอกมัยคอนเนอร์, เซ็นทรัลเวิร์ล อยากให้เป็นแบรนด์ทานได้ทุกวัน อัตรากำไรทำได้ค่อนข้างดี แม้ รายได้จะหายไปบ้าง

ปีนี้จะไม่มีแผนรีโนเวทแล้ว เดือนพ.ย.-ธ.ค.จะได้เห็นทั้ง 53 สาขา ต้อนรับลูกค้าเต็มที่ ส่วนปี 2569 มีแผนรีโนเวทหลายสาขาของ MAGURO ส่วนของ HITORI SHABU มีแผนรีโนเวทสาขาสยามพารากอน และอาจมี SSAMTHING TOGETHER ด้วยที่เมกาบางนา