CPALL หวังโค้งสุดท้ายดีขึ้น แรงหนุนคนละครึ่ง-นักท่องเที่ยว

HoonSmart.com>>”ซีพี ออลล์”(CPALL) คาดผลงานไตรมาส 4/68 ใกล้เคียงไตรมาส 3 แม้เป็นช่วง High Season แต่เจอฝน-พายุ ส่งผลกระทบต่อคนเข้าร้าน  หวัง”คนละครึ่ง”และนักท่องเที่ยวหนุนดีขึ้น มั่นใจเป้าขยายสาขาปีนี้ทำได้ตามเป้า 700 สาขา ส่วนปี 69 คงเป้าขยาย 700 สาขา งบลงทุนใช้ประมาณ 1.3-1.4 ล้านบาท กลยุทธ์เน้น Ready to eat เป็นหลัก มอนิเตอร์สถานการณ์และความเสี่ยงฝั่งกัมพูชาอย่างใกล้ชิด

น.ส.ปัณฑารีย์ นันทนาคม ผู้จัดการทั่วไป สำนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/2568 คาดว่าผลงานจะยังใกล้เคียงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วง High Season แต่ยังเผชิญกับฝน และพายุ  ซึ่งอาจไม่ถูกกับธุรกิจร้านสะดวกซื้อเท่าไร  คงอาจจะยังมีผลกระทบในเรื่องคนเข้าร้านบ้าง แต่ปัจจุบันหวังว่า โครงการคนละครึ่งพลัสจะสามารถบูทการจับจ่ายใช้สอย ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ในอีก 1 เดือนครึ่งข้างหน้า และในมุมมองนักท่องเที่ยวสามารถมาสนับสนุนก่อนปิดปีนี้ได้ ซึ่งทำให้อาจเห็นสัญญาณที่ดีในไตรมาส 4 ก็ได้

“ภาพการบริโภคยังอ่อนแออยู่ แต่ในช่วงไตรมาส 4 มีโครงการคนละครึ่งพลัส  บริษัทฯมองว่าไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากภาคส่วนไหนก็ตาม ถ้าสามารถเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยให้ดีขึ้น Sentiment ดีขึ้น เป็นไปในทางบวก สุดท้ายก็หวังว่าจะวนกลับมาให้กับ Modern Trade เช่นกัน”

ส่วนการเปิดสาขาในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา จำนวน 519 สาขา ปัจจุบันตั้งเป้าขยายสาขาปี 2568 ไว้ที่ 700 สาขา  คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย โดยในระยะ 3 ปีข้างหน้า บริษัทยังคงเป้าหมายการขยายสาขา 700 สาขา/ปี

“เรายังคงต้องการเป็น Food & Drink Destination ให้กับลูกค้า ถ้าลูกค้าเข้าร้าน สินค้าขายดียังคงเป็นกลุ่มอาหาร เพราะฉะนั้นกลยุทธ์เน้น Ready to eat เป็นหลัก สิ่งที่จะทำก็คือ เราพยายามจับเทรนด์ลูกค้าในแต่ละช่วง และพยายามนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละช่วง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถดึงลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในร้าน เช่น ประเทศเริ่มเข้าสู่วัยผู้สูงอายุมากขึ้นแล้ว ดังนั้นเราอาจเสนอสินค้าคลีนมากขึ้น อย่างฟักทอง, ข้าวโพด เป็นต้น  สามารถจับกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ได้ และพยายามนำเสนอสินค้าที่ค่อนข้างแตกต่าง  นำเสนอผลไม้ที่แตกต่างในทุก ๆ ไตรมาส ซึ่งเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ และยังมีโปรโมชั่นแคมเปญ  ตอนนี้มีแสตมป์น้องหมีเนย-ฮัลโลคิตตี้ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า”

สำหรับปี 2569 ในไทยยังตั้งเป้าขยายสาขา 700 สาขาอยู่ ส่วนเงินลงทุนปัจจุบันใช้อยู่ 13,000-14,000 ล้านบาท/ปี เฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ครึ่งหนึ่งจะใช้ในการขยายสาขา และการปรับปรุงร้านสาขา ส่วนอีกครึ่งจะใช้ลงทุนด้านไอที เป็นแผนการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก  ส่วนการเติบโตของบริษัทฯจะยังคงอ้างอิงการเติบโต GDP ของไทยในปี 2569

“ปีหน้า SSSG ยังอ้างอิงกับ GDP ไทยอยู่ และในมุมกลยุทธ์ด้านสินค้าเน้นอาหาร และเครื่องดื่มที่ขายดี เป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำเรื่องสินค้า จับเทรนด์ลูกค้า รวมถึงจะควบคุมค่าใช้จ่าย ทุกกลุ่มของ CPALL จะดูการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

สาขาในลาวจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากลาวเป็นประเทศค่อนข้างเล็ก ทั้งปีอาจขยาย 10 สาขา/ปี ปัจจุบันมีสาขาที่อยู่ 20 สาขา ส่วนกัมพูชา บริษัทฯมอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลาถึงเรื่องความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น มีทั้งสิ้น  125 สาขา เทียบกับไทยมีราว 16,000 สาขา และ SSSG ส่วนใหญ่ได้มาจากสาขาในไทยเป็นหลัก

———————————————————————————————————————————————————–