บล.ยูโอบีฯ ถอนหุ้นออกจากตลท.(อีกราย) ผู้ถือหุ้นใหญ่รับซื้อทั้งหมด

HoonSmart.com>>บอร์ด บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) หรือ UOBKH ไฟเขียว เพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทย  ผู้ถือหุ้นใหญ่ (สิงคโปร์) รับซื้อหุ้นทั้งหมด หลังจากหุ้นถูกห้ามซื้อขาย (SP) 5 มิ.ย.68 เหตุผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์ บริษัทเข้ามาเป็นบจ. เมื่อ 22 พ.ย.48 ขาย IPO ราคา 6.20 บาท ล่าสุดเหลือ 5.35 บาท มาร์เก็ตแคป  2,685.70 ล้านบาท  ก่อนหน้านี้ SVI ถอนหุ้นออกจากตลาด อ้างเหตุผลจดทะเบียน ได้ประโยชน์ไม่คุ้ม

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  หรือ UOBKH เปิดเผยว่า ตามที่หุ้น UOBKH  ถูก  SP (Trading Suspension) ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2568 เนื่องจากสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดนั้น

บริษัทได้รับหนังสือจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ UOB-KAY HIAN HOLDINGS LIMITED แจ้งจากความประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นบริษัทได้มีมติคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2568 พิจารณาอนุมัติการเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์

สำหรับ บล.ยูโอบีฯ มีแม่เป็นธนาคารยูไนเต็ดโอเวอร์ซีส์ (UOB) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจธนาคารและหลักทรัพย์ในภูมิภาค  ในส่วนประเทศไทย ถือหุ้นใหญ่โดย UOB-KAY HIAN HOLDINGS LIMITED จำนวน 355 ล้านหุ้น หรือ 70.65% และ UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ถือ 90 ล้านหุ้น สัดส่วน 17.94% รวมทั้งสิ้น 88.59%  โดยนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2548 เสนอขายหุ้น IPO  ในราคาหุ้นละ 6.20 บาท ล่าสุดราคาปิดที่ 5.35 บาท มาร์เก็ตแคป 2,662.98 ล้านบาท มีทุนเรียกชำระแล้ว 502,448,570  หุ้น พาร์หุ้นละ 1  บาท

ทางด้านผลการดำเนินงาน ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 90.86 ล้านบาท ปี 2567 พลิกขาดทุนสุทธิ -129.99 ล้านบาท และครึ่งปี 2568 กำไร
4.68 ล้านบาท

เมื่อเร็วๆนี้  บอร์ด บริษัทเอสวีไอ (SVI ) มีมติอนุมัติถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ เสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 470.09 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.83% ที่ราคาหุ้นละ 7.50 บาท สูงกว่าตลาดประมาณ 21% มูลค่าประมาณ 3,526 ล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญในเดือนม.ค. 2569 และธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้ดำเนินการ โดยให้เหตุผลว่าการเป็นบจ.ได้ผลไม่คุ้มค่า

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–