SVI ถอนหุ้นออกจากตลาด ลั่นเป็นบจ.ไม่คุ้ม ‘พงษ์ศักดิ์’ รับซื้อ 7.50 บาท

HoonSmart.com>>บอร์ด”เอสวีไอ” (SVI) ไฟเขียว เพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ(SET) ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 13 ม.ค.69 “พงษ์ศักดิ์ โลห์ทองคำ” ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมด 470.09 ล้านหุ้น 21.83% ราคา 7.50 บาท  สูงกว่าตลาดถึง 21% รวม 3,526 ล้านบาท แต่ดีลจะเกิดขึ้นต้องได้สินเชื่อแบงก์ เหตุผลในการออกจากตลาด เพิ่มความคล่องตัวทำธุรกิจ ลดค่าใช้จ่าย เปิดทางรายย่อยขายหุ้นจากปัจจุบันไม่มีสภาพคล่อง  ผลงานผันผวนทำให้ระดมทุนจากตลาดมีประสิทธิภาพน้อยลง

บริษัท เอสวีไอ (SVI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันที่ 31 ต.ค. 2568 เห็นสมควรให้บริษัทเพิกถอนหลักทรัพย์ จากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสมัครใจ  และเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2569 ในวันที่ 13 ม.ค. 2569 พิจารณาอนุมัติ  โดยนายพงษ์ศักดิ์ โลห์ทองคำ ที่ถือหุ้นในชื่อตนเองและผ่านคัสโตเดียนและบุคคลที่กระทำการร่วมกัน (Concert Party) รวม 1,683.12  ล้านหุ้น คิดเป็น 78.17% ของทุนเรียกชำระแล้ว เสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่จำนวน 470.09 ล้านหุ้น หรือ 21.83% ในราคา  7.50 บาทต่อหุ้น สูงขึ้น 21% เทียบกับราคาหุ้นปิดล่าสุดอยู่ที่ 6.20  บาท ลดลง 0.15 บาทหรือ -2.36% ณ วันที่ 31 ต.ค.2568

การเสนอซื้อหุ้น SVI ของคุณพงษ์ศักดิ์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้เสร็จสิ้น

1. นายพงษ์ศักดิ์จะต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อการทำคำเสนอซื้อเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ

2.การได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด  และต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยคะแนนเสียงเกิน  10 %ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด

3.การได้รับอนุญาต อนุมัติ และ/หรือผ่อนผัน จากหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ สถาบันการเงิน และคู่สัญญาอื่นใดภายใต้สัญญาที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีที่จำเป็น)

ส่วนเหตุผลและความจำเป็นในการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจ  มีประสิทธิภาพและความคล่องตัวยิ่งขึ้น เนื่องจากการลดขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงทรัพยากรของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน เช่น ค่าธรรมเนียมรายปีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลต่อนักลงทุน เป็นต้น รวมถึงลดภาระด้านกฎระเบียบและกฎหมายที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม

นอกจากนี้ในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีจำนวนไม่มากนัก การเพิกถอนหลักทรัพย์ จะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ โดยจะช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ตามจำนวนที่ต้องการ ในราคาที่เหมาะสมตามที่กำหนดในคำเสนอซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงจากผลการดำเนินงานที่มีความผันผวนซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ถือหุ้น ต้องรับภาระการเพิ่มทุนเพิ่มเติม

การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากผลการดำเนินงานมีความผันผวน และแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตมีความไม่แน่นอนซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า และกำลังซื้อที่ลดลงภายใต้ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก

สำหรับ นายพงษ์ศักดิ์ ประกาศซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สอง จากครั้งแรกเคยรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นจำนวน  577.58 ล้านหุ้น หรือ 26.83% ที่ราคาหุ้นละ 4.85 บาท เป็นเงินประมาณ 2,801  ล้านบาท ระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-1 พ.ย.2562 ทำให้ถือหุ้นทั้งหมด 1,561.94 ล้านหุ้น หรือ 72.54% แต่ไม่ถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์

นอกจากนี้เมื่อปลายเดือนพ.ค.2568 นายพงษ์ศักดิ์ ถูกก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง คดีอินไซด์หุ้น SVI เรื่องกำไรไตรมาส 3/2564 จำนวน 520.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 123.34 ล้านบาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 29 เดือน

 

———————————————————————————————————————————————————-