HoonSmart.com>>กลุ่มสามารถคอร์ปอเรชั่น ลั่นกำไรปี’68 เทิร์นอะราวด์ 100% รายได้แตะ 1.15 หมื่นล้านบาท Backlog ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท ลุยประมูลงานใหม่ 9 พันล้านบาท ขยายตลาดเทคโนโลยี –ดาต้าเซ็นเตอร์–จราจรอากาศ ใน CLM เล็งส่ง TEDA เข้าตลาดฯ รอลุ้นงบปี’70 หนุนเศรษฐกิจ
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่าจะรับรู้รายได้และกำไรมากขึ้น
โดยมีงานรอประมูลอีกเกือบ 9,000 ล้านบาท และจะมีงานใหม่เร่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากหลายหน่วยงานภาครัฐที่ต้องเร่งใช้งบประมาณ โดยแต่ละบริษัทในเครือมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ
บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) มีงานรอประมูลรวมกว่า 4,000 ล้านบาท คาดว่า Backlog สิ้นปีจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท
ด้าน บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) มีงานรอประมูลประมาณ 2,300 ล้านบาท เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการขายอุปกรณ์ให้วิทยุการบิน และ FOD
ด้านบริษัทเทด้า มีงานรอประมูลเกือบ 2,000 ล้านบาท
ส่วนรายได้รวมจะแตะที่ประมาณ 11,000–11,500 ล้านบาท คาด Backlog ทั้งกลุ่มตอนสิ้นปีจะทะลุ 20,000 ล้านบาท
“ปี 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของกลุ่ม SAMART ที่สามารถกลับมามีกำไรแบบ Turnaround 100% อย่างเต็มตัว หลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทลูกดีขึ้น บริษัทแม่ก็จะดีตามด้วย” นายวัฒน์ชัย กล่าว
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า สำหรับ ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ทั้งรายได้และกำไร ถึงแม้ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ และยังมีหลายโครงการที่ล่าช้าจากงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ทุกสายธุรกิจมีทิศทางขาขึ้นและแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในช่วง 9 เดือน มีรายได้แตะ 7,700 ล้านบาท มี Backlog ทั้งกลุ่มประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยทุกสายธุรกิจและบริษัทย่อยมีผลงานโดดเด่น
สายธุรกิจ Digital ICT Solutions ภายใต้บริษัท SAMTEL ในช่วง 9 เดือน SAMTEL มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการจ้างจัดหา พัฒนา ติดตั้ง และดูแลบำรุงรักษาระบบสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้า (Utility Platform UTP) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปัจจุบันมี Backlog รวมกว่า 8,000 ล้านบาท
สายธุรกิจ Digital Communications ภายใต้ บริษัทสามารถ ดิจิตอล (SDC) ครึ่งปีแรกแล้วมีกำไรถึง 33 ล้านบาท จากค่า Air Time ในโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอล หรือ Digital Trunked Radio System ของโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย (MOI) และจะสร้างรายได้และกำไรต่อเนื่องตลอดปีนี้
สายธุรกิจ Utilities & Transportations โดยบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา เฉพาะ 9 เดือน จำนวนไฟล์บินเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่แล้ว
ส่วน บริษัทเทด้า จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจร ก็ยังสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง 9 เดือน มี Backlog แล้วกว่า 3,800 ล้านบาท ล่าสุดได้งานใหม่รวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท อาทิ โครงการสถานีไฟฟ้าแรงสูง 230/115kV ที่นครศรีธรรมราช, ขนอม, พัทลุง, เชียรใหญ่
นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ก่อนเกิดเหตุการณ์ยิงกัน มีเที่ยวบินประมาณ 250 เที่ยวต่อวัน
เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้จำนวนเที่ยวบิน ลดลงมาเหลือประมาณ 200 ถึง 210 เที่ยวต่อวัน การลดลงนี้คิดเป็นประมาณ 20% ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ผลกระทบนี้เป็นเพียง ช่วงสั้น ๆ ประมาณ 2 อาทิตย์เท่านั้น
ปัจจุบัน กลับขึ้นมาเป็น 240 เที่ยวต่อวัน และคาดว่าเดือน พ.ย.กับธ.ค.จะกลับมาเป็น 250 เที่ยว หรืออาจมากกว่า
นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2569 ว่า ยังคงแข็งแกร่ง จาก
1.เติบโตตามการลงทุนของภาครัฐ เนื่องจากรายได้หลักยังคงมาจาก ภาครัฐ ประมาณ 70% ซึ่งคาดว่ารัฐจะยังคงมีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี การลงทุนใน เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และ Environment รวมถึงการสร้าง สามารถ DNA เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพ และการมองหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ใน ลาว พม่า เพิ่มเติม
ทั้งนี้ เชื่อว่า ปี 2569 ภาครัฐยังคงต้อง อัดฉีดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี หากไม่มีการลงทุนเหล่านี้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการภาครัฐ เช่น ATP—บริการควบคุมการจราจรทางอากาศ ก็จะไม่สามารถเติบโตได้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เนื่องจากทุกหน่วยงานต้องหันมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และนวัตกรรมอื่น ๆ เพื่อให้ทันกับโลก
งานภาครัฐ ยังเป็นตลาดที่ทุกคนต้องการ แต่การเข้าถึงตลาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามายาก จะเห็นว่าปัจจุบันเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ 3-5 ราย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประมาณการณ์การเติบโตของรายได้ปีหน้าที่แน่ชัดได้ เพราะต้องรอดูการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ถ้าเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่คาดว่าจะจัดตั้งได้ในช่วงประมาณเดือนพ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้การพิจารณางบประมาณปี 2570 เป็นไปตามแผน ถ้าจัดตั้งไม่ทัน พิจารณางบประมาณล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนภาครัฐ เศรษฐกิจอย่างมาก และส่งผลต่อบริษัทด้วย
2. บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น (SAV) ธุรกิจบริการจัดการการจราจรทาง ทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา ยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะรายได้จากการเติบโตของการบินผ่าน (Overflight) สนามบินในกัมพูชา มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่ารายได้จาก Overflight ในปี 2569 จะเติบโตได้ดี
เนื่องจากการเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น หรือเวียดนาม เมื่อจีนมาเที่ยวไทยน้อยลง จีนจึงไปเวียดนาม มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ซึ่งเที่ยวบินเหล่านี้จะมาผ่านประเทศกัมพูชา
การเติบโตของ Overflight โดยรวมนั้นมาจาก จีน และยุโรป ด้วย โดยเที่ยวบินมาเลเซียที่มีการเติบโตสูงนั้นมาจากจีนเป็นหลัก
รวมถึง เวียดนามมีการขยายสนามบิน โดยเฉพาะที่สนามบินโฮจิมินห์ (โจมิน) ในปี 2569 จะเห็นว่าสายการบินเวียตเจ็ท มีการสั่งซื้อเครื่องบินประมาณ 100 ลำ การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินที่บินออกจากเวียดนาม เช่น ไปตะวันออกกลางหรือยุโรป จะส่งผลดีต่อสนามบินกัมพูชา
3.ขยายธุกิจในภูมิภาค CLM ทั้งใน กัมพูชา, ลาว, พม่า โดย SAV ได้เข้าไปประมูลงานในลาว หากได้รับงานในลาว โครงการนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าโครงการในกัมพูชามาก ซึ่งลาวมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์เพราะเป็น เส้นทางผ่านของเที่ยวบินที่เดินทางไปญี่ปุ่นและจีน รวมถึงเส้นทางไปอเมริกาด้วย
นอกจากนี้ ยังสนใจที่จะเข้าไปหาโอกาสในพม่าเพิ่มเติม นอกเหนือจากการขายสินค้าให้กับวิทยุการพม่า อยู่ในปัจจุบัน แต่สถานการณ์ทางการเมืองพม่าปัจจุบันยังไม่เรียบร้อย
4.เติบโตตาม โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล (Data Center) ใน ไทย พม่า ลาว และกัมพูชา กำลังจะมีการลงทุนด้าน Data Center มากขึ้นในอนาคต ที่มักเกี่ยวข้องกับโครงการระดับภูมิภาค จะเป็นโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มสามารถ ที่ให้บริการด้านนี้ เช่น การสร้าง สถานีไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากหน่วยงานอย่าง กฟภ. (PEA) อาจต้องจ้างบริษัทภายนอกเพื่อสร้างระบบจ่ายไฟให้กับ Data Center
ล่าสุด บริษัทเทด้า (TEDA) บริษัทย่อยของสามารถ ได้งานก่อสร้าง สถานีไฟฟ้า Indoor GIS 115/11 kV ที่ชลบุรีและสถานีไฟฟ้าแรงสูง 500 kV กับ EGAT ร่วม มูลค่า สัญญา กว่า 1,942 ล้านบาท
นับจาก ปี 2569 บริษัทเทด้า จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มสามารถ ตามการขยายตัวของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีแผนที่จะนำบริษัทเทด้า เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
สำหรับ การบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ในการดำเนินการโครงการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอุปกรณ์หรือลงทุนในต่างประเทศ จะใช้เงินสกุลต่างประเทศซื้อขายบางส่วน อีกบางส่วนทำเฮ็ดจิ้ง กับธนาคาร เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น คาดว่าค่าเงินบาทไม่น่าจะกลับไปแข็งเหมือนช่วงที่ผ่านมาอีก
