HoonSmart.com>>หุ้นการบินไทย(THAI) ดิ่งต่อวันที่สอง -5.22% สังเวยกระแสแทรกแซงเปลี่ยนบอร์ด ความกังวลลาม”ท่าอากาศยานไทย” (AOT) ร่วง 4.65% ปลัดกระทรวงการคลังยันไม่ซื้อหุ้นเพิ่มให้การบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ยอมรับเสนอรายชื่อหลายคนส่วนใหญ่เป็น”มืออาชีพ”ภาคเอกชน ระบุความจำเป็นเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 เป็น 15 คน ทางด้านปตท.(PTT) 2 กรรมการลาออก
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย (THAI) ชี้แจงกระแสกระทรวงการคลังเข้าแทรกแซงการจัดตั้งคณะกรรมการบริษัทการบินไทย (THAI)โดยมีการเสนอรายชื่อถึง 10 คนให้โหวตในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประมาณเดือนธ.ค.นี้ ว่ากระบวนการสรรหาคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)มีขั้นตอนที่ชัดเจน และไม่ได้เป็นการแต่งตั้งแบบรัฐวิสาหกิจ โดยผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกิน 5% ก็มีสิทธิ์เสนอชื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาได้ และรายชื่อสุดท้ายจะต้องเข้าสู่การโหวตในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี หรือ Annual General Meeting (AGM)
ปัจจุบันมีรายชื่อที่อยู่ในการพิจารณาทั้งสิ้น 17 คน โดยยืนยันว่ารายชื่อที่กระทรวงการคลังเสนอนั้นเป็นมืออาชีพ ส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนและมีราชการเพียงคนเดียวเท่านั้น ตามขั้นตอนคณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาคัดเลือกเหลือ 8 คนสุดท้าย และนำเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อพิจารณาเห็นชอบวันที่ 23 ต.ค.นี้ จากนั้นเสนอเข้าสู่ที่ประชุม AGM
“วันนี้การบินไทยเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว ไม่เคยมองว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 38% ไม่ได้มีแผนที่จะซื้อหุ้นเพิ่ม แต่ยังคงต้องส่งคนเข้าไปดูแลทรัพย์สิน เนื่องจากใส่เงินทุนไปกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของประชาชนและรัฐบาล โดยตลอด 4 เดือนที่เริ่มทำงานคณะกรรมการทุกคนล้วนเป็นมืออาชีพและทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของการบินไทย ยืนยันว่าการบินไทยจะไม่กลับไปมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และจะยังคงบริหารงานในฐานะบริษัทจดทะเบียน “นายลวรณกล่าว
ส่วนการเสนอเพิ่มจำนวนคณะกรรมการบริษัทฯจาก 11 คนเป็น 15 คนนั้นนายลวรณ กล่าวถึงความจำเป็น เนื่องจากจำนวน 11 คนในปัจจุบันทำให้เกิดข้อจำกัดในการจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่สำคัญ ปัจจุบันสามารถตั้งคณะกรรมการได้เพียง 2 ชุด คือ คณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ซึ่งตั้งขึ้นตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์สำหรับการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ขณะที่ข้อกำหนดของการบินไทยระบุว่า คณะกรรมการตรวจสอบต้องเป็นกรรมการอิสระ 3 คน มื่อเป็นกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการสรรพหาฯ แล้ว จะไม่สามารถเป็นกรรมการชุดอื่นได้อีก ดังนั้นเมื่อตัดกรรมการที่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดต่างๆ ออกไปและประธานรวมเป็น 7 คน จำนวนคนที่เหลือก็จะไม่พอ ทำให้ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงได้ ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดสำคัญที่องค์กรขนาดใหญ่ควรมี
ทางด้านการซื้อขายหุ้นการบินไทย วันที่ 10 ต.ค.2568 นักลงทุนยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ราคาปิดที่ระดับ 10.90 บาท ลดลง 0.60 บาท คิดเป็น -5.22% น้อยกว่าวันแรก (9 ต.ค.) ราคาหุ้นดิ่งลงถึง 10.85% ปิดที่ 11.50 บาทหรือลดลง 1.40 บาท
กระแสการแทรกแซงในการจัดตั้งคณะกรรมการของบริษัทในสังกัดกระทรวงการคลัง ยังส่งผลถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT)ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นมากถึง 70% กระทบราคาหุ้น ปิดที่ 41 บาท ติดลบ 2 บาทคิดเป็น -4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,359.65 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม AOT ปรับตัวลงส่วนหนึ่งเกิดจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามาก เก็งกำไรเรื่องการศึกษาการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก(PSC) มากเกินไป คาดผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
ทางด้านบริษัทปตท.(PTT) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่จำนวน 51.38% แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ แจ้งขอลาออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการกรรมการอิสระกรรมการสรรหา และกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร เนื่องจากมีภารกิจอื่น และดร.ณรงค์เดช สรุโฆษิต แจ้งขอลาออกจากการดำรงแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของ ปตท. เนื่องจากมีภารกิจอื่น โดยให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2568 เป็นต้นไป
