HoonSmart.com>>ฟิทช์ เรทติ้งส์ ชี้ ประเทศไทยเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ เป็นเหตุปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “ลบ” จาก BBB+ สะท้อนแรงกดดันทางการคลังและการฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจน
นายโธมัส รูคมาเคอร์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มจัดอันดับเครดิตประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ฮ่องกง กล่าวถึง ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยว่า ฟิทช์คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.4% ในปี 2568 จาก 2.9% ในปี 2567 และมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯที่มีมากขึ้น บ่งชี้ถึงอุปสรรคต่อการส่งออกสำหรับประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่การส่งออกของประเทศจีนยังคงทรงตัวได้ โดยบางส่วนเป็นการเปลี่ยนเป้าหมายการส่งออกไปยังประเทศปลายทางอื่น
การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอลงก็ส่งผลให้มาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง (fiscal consolidation) มีความล่าช้า เช่นในกรณีที่ประชาชนในประเทศเกิดความไม่พอใจและนำไปสู่การประท้วงด้านธรรมาภิบาลหรืออัตราค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
ฟิทช์ได้ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลที่ ‘BBB+ ’ของประเทศไทย เป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” จาก“แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อฐานะการคลังของประเทศจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่ยืดเยื้อประกอบกับอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ล่าช้าและการลดระดับหนี้ของภาคครัวเรือน (household develaging)
สถานะทางการคลังของประเทศไทยได้ปรับตัวด้อยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่ารัฐบาลจะยังสามารถจัดหาเงินทุนเพื่อชดเชยการขาดดุลได้ด้วยต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน ในขณะที่สถานะหนี้สินต่างประเทศ (external finance) ยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญ
แนวโน้มการดำเนินงานของภาคธนาคาร
นายพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสถาบันการเงินของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรและคุณภาพสินทรัพย์ของภาคธนาคารไทยมีแนวโน้มถดถอยลงโดยสินเชื่อด้อยคุณภาพมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มลูกหนี้ SME คาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2569 จะยังคงมีความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ การเติบโตของสินเชื่อในระดับต่ำและอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการรองรับความเสี่ยง (loss absorption buffers) เช่น อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ และฐานะเงินกองทุน(core capital)ของภาคธนาคารยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับธนาคารในภูมิภาคและเกณฑ์มาตรฐานของฟิทช์
และยังเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนโครงสร้างเครดิตที่พิจารณาจากฐานะการเงินของตัวธนาคารเอง (standalone alone credit
profile) แม้ว่าอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย จะมี “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ”
