HoonSmart.com >> ONSENS ผู้นำออนเซ็น-สปาไทยครบวงจร ด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง นับถอยหลังเข้าซื้อขาย หุ้นใหญ่สร้างความมั่นใจนักลงทุน พร้อมใจล็อกหุ้น 99% เป็นเวลา 6 เดือน
บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป ( ONSENS ) ไอพีโอน้องใหม่ กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันที่ 7 ตุลาคม 2568 นี้ ในหมวดการท่องเที่ยว-สันทนาการ ชื่อย่อ ONSENS ทำธุรกิจหลัก ออนเซ็น-สปา ครบวงจร รายแรกของประเทศไทย เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา
ธุรกิจออนเซ็นในไทย หลาย ๆ คน คงคิดไม่ถึงว่า เมืองไทย เมืองร้อนเหมาะกับการออนเซ็น หรือ ?
เป็นคำถามที่ “สมิทธิ์ เมฆอรุณกมล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็น 1 ในผู้ก่อตั้ง มักเจอคำถามยอดฮิตนี้บ่อย ๆ
แล้วจริง ๆ เป็นอย่างไร “สมิทธิ์” และ “เพชร คงแสงไชย” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี-การเงิน มีคำตอบ

ONSENS เริ่มด้วยใจ ทำด้วยใจ
ทั้ง 2 คน เกริ่นนำที่มาของความร่วมมือว่า เมื่อ 13 ปีก่อน “สมิทธิ์” และ “เพชร” เป็นเพื่อนกัน มีความชอบ ออนเซ็น เหมือนกัน เมื่อจุดเริ่มต้น มาจากความชอบเดียวกัน ออนเซ็นช่วยผ่อนคลาย ลองได้แช่แล้ว นอนหลับดี
ประกอบกับ ได้มีโอกาสเจอคนญี่ปุ่น ที่จุดประกายว่า เมืองไทย น่าจะมีออนเซ็น ทั้งคู่จึงได้ลงมือเดินทางไปหาข้อมูลการออนเซ็น ที่ญี่ปุ่น พบว่า การออนเซ็น ของญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นแค่การแช่น้ำร้อน เพื่อคลายหนาว แต่เป็นกิจววัตรประจำวันของการดูแลสุขภาพ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้คนญี่ปุ่นมีอายุยืน นอกจากการกินอาหาร และการออนเซ็นที่ญี่ปุ่น ต้องเป็นน้ำแร่จากธรรมชาติเท่านั้น ถึงมีสิทธิเรียก “ออนเซ็น”
ส่วนคนไทย การแช่ออนเซ็น เป็นการพักผ่อน หรือให้รางวัลกับชีวิต
“ทั้งที่โตเกียวกับกรุงเทพ มีประชากรเท่า ๆ กัน โตเกียวมี ออนเซ็น 500 แห่ง รายได้ 1.1 ล้านล้านบาท/ปี ขณะที่ไทย มีรายได้รวมออนเซ็น 3,000 ล้านบาท/ปี จึงมีโอกาสเติบโตสูง
นอกจากการไปศึกษา ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นแล้ว ก็ลงมือศึกษาหาข้อมูลแหล่งแร่ธรรมชาติของไทย กระทั่งพบว่า แนวสันภูเขาตะนาวศรี ตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรี ลงไประนอง เป็นแหล่งน้ำแร่ที่ดี
ข้อมูลครบ จบที่การลงมือทำ
“สมิทธิ์” หนุ่มเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เคยทำงานด้านการตลาด การโฆษณา การสร้างแบรนด์เนอร์ ขณะที่ “เพชร” หนุ่มวิศวะเครื่องกล โทการเงิน
เมื่อความถนัดที่แตกต่าง สร้างการลงตัวที่ ONSENS การสร้างแบรนด์ Yunomori จึงไม่ใช่เรื่องยาก และระบบน้ำ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกเช่นกัน เพราะระบบน้ำของการออนเซ็น มีความสำคัญมาก ตั้งแต่การจัดเก็บน้ำแร่ ที่ขนใส่รถมาจากแหล่งตาน้ำร้อนวัดวังขนาย ปริมาตร 30,000 ลิตร/สัปดาห์ และการดูแลคุณภาพน้ำ ทำความสะอาด ได้ศาสตร์ความรู้จากญี่ปุ่น มาปรับใช้ กับ บ่อ ออนเซ็นน้ำแร่ทั้ง 7 บ่อ ที่มีความหลากหลายทั้งบ่อน้ำเย็น , น้ำร้อน ,น้ำแข็ง , บ่อเกลือ ฯ
จาก Yunomori สาขาแรกสุขุมวิท 26 เริ่มแตกสาขา 2 ไปถึงสาขา 4 ที่สาทร , พัทยา และสิงคโปร์ บริษัทร่วมทุน ทั้ง 4 สาขา เป็น Stand Alone ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ในการเข้าใช้บริการ เรียกได้ว่า เป็นไพรม์ แอเรีย หรือ CBD

การบาลานซ์ลูกค้าได้ดี
“สมิทธิ์” บอกว่า การไม่พึ่งพิงลูกค้าประเภทใด ประเภทหนึ่ง มากเกินไป ช่วยลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี และถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่สร้างการเติบโตให้กับ ONSENS
ประสบการณ์โควิด ที่ผ่านมา ONSENS รับผลกระทบเต็ม ๆ จากการปิดประเทศ ปิดบ่อออนเซ็น แต่สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่สิงคโปร์ จัดการกับสาธารณสุขได้รวดเร็ว เปิดออนเซ็น ได้เร็ว ขณะที่ประเทศไทย ออนเซ็นฟื้นตัวเร็วเช่นกัน เพราะผู้เข้าใช้บริการ ส่วนใหญ่ 70-80% เป็นคนไทย และคนต่างชาติที่อยู่ในไทย ที่เข้ามาใช้บริการ นักท่องเที่ยวมีเพียง 30% เท่านั้น
ราคาเข้าถึงได้
“เพชร คงแสงไชย” ซีเอฟโอ ผู้ร่วมก่อตั้ง เสริมว่า “ทั้งที่โตเกียวกับกรุงเทพ มีประชากรเท่า ๆ กัน โตเกียวมี ออนเซ็น 500 แห่ง รายได้ 1.1 ล้านล้านบาท/ปี ขณะที่ไทย มีรายได้รวมออนเซ็น 3,000 ล้านบาท/ปี จึงมีโอกาสเติบโตสูง ลูกค้าที่มาใช้บริการ”
ONSENS ตั้งเป้า Yunomori แอนด์ สปา จะเป็นพื้นที่หนึ่งของคนที่ใส่ใจสุขภาพ การมาออนเซ็นกับ Yunomori เป็น One day Pass สามารถแช่ได้หลายบ่อ อยู่ได้ทั้งวัน มีร้านอาหาร และมีสปา-นวด ราคาเข้าถึง-จับต้องได้ ทั้งออนเซ็น-สปา อยู่ราว ๆ 1,000 บาท +-
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ผ่านการจองออนไลน์ , Walk In เข้ามา มีทั้งการซื้อแพคเก็จ , เป็นสมาชิก หรือเป็นครั้ง และลูกค้าไทยส่วนใหญ่ 80-90% จะเข้ามาออนเซ็น ซ้ำ หรือเฉลี่ย 2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ 300-400 คน/วัน เพราะราคาที่เข้าถึงได้ ดึงดูให้ลูกค้ากลับมาซ้ำ
ความแตกต่าง ONSENS
“สมิทธิ์” ซีอีโอ กล่าวว่า ONSENS มีโมเดลธุรกิจต่างกัน โดยบริษัท ฯ มีออนเซ็นและสปา ครบวงจร ดำเนินธุรกิจ 13 ปี เป็นผู้นำออนเซ็น รายแรกของไทย รายได้หลัก 86% มาจากธุรกิจออนเซ็น-สปา ลองนึกภาพ การจับคนมาใส่กล่อง คนยิ่งมาก มาร์จิ้นจะขยับตามปริมาณคน
ขณะที่บริษัทอื่น รายได้ 85% มาจากการการนวด-สปา มีมาร์จิ้นคงที่ กำไรขั้นต้นแคบ ศักยภาพจึงต่างกัน
ด้วยความแตกต่างด้านแบรนด์ , การบริการด้วยใจ , ราคาเข้าถึงได้ , สถานที่สะดวกต่อการเดินทาง ส่งผลให้แบรนด์ Yunomori ครองใจออนเซ็น ONSENS จึงเป็นผู้นำที่มีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต
แบรนด์น้องใหม่ KLAI และ PAK Massage
จาก Yunomori สู่แบรนด์น้องใหม่ KLAI และ PAK Massage ซึ่งแบรนด์น้องใหม่ เป็นสปา-นวด ที่มีเอกลักษณะเฉพาะโดดเด่น KLAI สาขาแรก เยาวราช เปิดให้บริการแล้ว PAK Massage ร้านสะดวกนวด ทำเลโมเดิร์นเทรด , ห้างสรรพสินค้า
หากจะจัดขนาดการออนเซ็น-สปา แล้ว เรายกให้ Yunomori เป็น size L , KLAI size M และ PAK Massage size S
ทั้ง 2 แบรนด์น้องใหม่ มีแผนเปิด 7 สาขาครบภายในปี 2570

ระดมทุน สร้าง Flagship
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษานำ ONSENS เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น SET กล่าวเสริมว่า การระดมทุน จำนวน 80 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.05 บาท เป็นราคาที่เหมาะสม บริษัทนำเงินระดมทุน 120 ล้านบาท สร้าง Flagship แห่งใหม่ต่อยอดการเติบโต เป็นโครงการ Social Wellness Space ทองหล่อ มีออนเซ็น-สปาครบวงจร และโรงแรม 79 ห้อง , พื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยส่วนของโรงแรมเป็นการร่วมทุน 45 : 55
เงินระดมทุนบางส่วนชำระคืนเงินกู้ยืม ลดภาระดอกเบี้ย และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ผู้ถือหุ้นเดิม ล็อกหุ้น 99%
ที่ปรึกษาการเงิน กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ผู้ถือหุ้นใหญ่และพันธมิตร สมัครใจล็อกหุ้นส่วนที่เหลือจากการติดไซเร้นพีเรียด (ระยะห้ามขาย) สัดส่วน 99% เป็นเวลา 6 เดือน
ดังนั้นจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในตลาด จะมีเพียงหุ้น ไอพีโอ 80 ล้านหุ้น และหุ้นที่ไม่ติดไซเร้นพีเรียด 2.7 ล้านหุ้น รวม 82.7 ล้านหุ้น หมุนเวียนในตลาด จากหุ้นทั้งหมด 300 ล้านหุ้น

คนไทย ที่เคยไปญี่ปุ่น เชื่อว่า ต้องผ่านการออนเซ็น ในบ่อร้อน ๆ ช่วงหน้าหนาวมาแล้ว และเชื่อว่าทุกครั้งที่มีโอกาสไป ต้องหาโอกาสลงแช่ ออนเซ็น เพื่อสุขภาพ การผ่อนคลาย ซึ่งญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่การคลายหนาว แต่เป็นการฟื้นฟูเพื่อสุขภาพ
แล้วเมืองไทยล่ะ !! เป็นประเทศร้อน การแช่ออนเซ็น
