BCP เป้าปี‘71 อิบิทด้าพุ่งเท่าตัวแตะ 8 หมื่นล้านบ.ปรับธุรกิจ ปันผลสูง เปิดซื้อหุ้นคืน 3 ปี

HoonSmart.com>>”บางจาก คอร์ปอเรชั่น” (BCP) ประกาศกลยุทธ์ ตั้งเป้าโตก้าวกระโดด EBITDA พุ่งขึ้น 100% จากปีนี้คาด 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 8 หมื่นล้านบาทปี 71 วงเงินลงทุนรวม 35,000 ล้านบาท  เดินหน้าจ่ายเงินปันผลสูงอันดับต้นของอุตสาหกรรม สบโอกาสหุ้นถูก เปิดโครงการซื้อหุ้นคืน  3 ปี  ยกระดับศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มกำไร ขยายการลงทุนบนพื้นฐานวินัยทางการเงิน รักษาเรทติ้ง A+ เพิ่มมาร์จิ้น สร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น  (BCP)   เปิดเผยว่า บางจากฯ เติบโตขึ้นมาก โดยในปี 2567 มีสินทรัพย์รวมกว่า 316,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า จากราว 59,000 ล้านบาทในปี 2553 มีการขยายธุรกิจพลังงานครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนผ่าน เสริมสร้างศักยภาพสู่การเป็น Thailand’s Top Employer

ส่วนแนวโน้มในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าก็ยังคงเติบโตสูง คาดว่าปีนี้จะมี EBITDA  40,000 ล้านบาทจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 80,000 ล้านบาท ในปี 2571 หรือเติบโตปีละ 10,000 ล้านบาท แม้ธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน ท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์ ราคาพลังงานที่ไม่แน่นอน และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ สังคมโลกจะเร่งผลักดันการลดคาร์บอนก็ตาม

ดังนั้น BCP จะเร่งเครื่องกลยุทธ์ Bangchak 100x เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง โดยจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 5 กลุ่มหลัก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569  กลุ่มธุรกิจการค้าน้ำมัน (Trading) กลุ่มธุรกิจหลักใหม่ (new flagship) ถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ที่ยกระดับจากบทบาทเดิมในการสนับสนุนโรงกลั่น สู่การเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทน ตอบโจทย์การลงทุนและเป้าหมายใหม่ ครอบคลุมธุรกิจการกลั่นน้ำมันและการตลาด เชื้อเพลิงชีวภาพและเชื้อเพลิงแห่งอนาคต (SAF, HVO) การขยายกำลังการผลิตโรงกลั่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และขยายเครือข่ายการตลาดควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโต

นอกจากนี้เพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน บริษัทฯ จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้าง Synergy ระหว่างหน่วยธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ ควบคู่กับการเร่งกลไกการเติบโตใหม่ผ่านธุรกิจการค้าน้ำมันและธุรกิจต้นน้ำ การปรับบทบาท BCPG ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อรองรับทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและรายได้ที่มั่นคง รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตผ่านกองทุน CVC มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อวางรากฐานให้องค์กรก้าวนำการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

สำหรับการจัดสรรงบลงทุน ตั้งอยู่บนพื้นฐานวินัยทางการเงิน เพื่อรักษาเรทติ้ง A+ โครงการจะต้องให้ผลตอบแทนสูง เช่นประมาณ 15% ควบคู่กับการขยายการดำเนินงานในระดับสากล พร้อมลงทุนในทรัพย์สินที่อยู่ให้มีประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันเพื่อเพิ่มอัตรากำไร (มาร์จิ้น)  โดยจัดสรรงบลงทุนในช่วงปี 2569-2571 วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนหลัก เพื่อรักษาและขยายการผลิตของธุรกิจเดิม 20,000 ล้านบาท หวังเพิ่ม EBITDA จากการลงทุนนี้ราว 20,000-60,000 ล้านบาทใน 3 ปี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในธุรกิจใหม่

“บางจากฯให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าในธุรกิจหลักและการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Top Tier TSR) ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาจ่ายเงินปันผลสูงกว่าคู่แข่ง และพร้อมผลักดันให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงราคาหุ้น BCP ที่ปรับตัวลงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน บริษัทเตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น  แต่ยังไม่กำหนดเม็ดเงินและช่วงเวลาในการซื้อหุ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ จึงให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมด้วย”นายชัยวัฒน์กล่าว

ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การลงทุนรับมือกับเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บางจากฯยังคงให้ความสำคัญกับไฮโดรคาร์บอน หลายสำนักรายงานว่าจะยังคงเป็นพลังงานหลักของเศรษฐกิจโลกจนถึงปี 2593 พร้อมลงทุนเพื่อรองรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules – Future Proof) พลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ และตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ด้วยการมุ่งสู่การจัดอันดับ Top 1% ESG Ranking และ Top 5% ของดัชนี DJSI ควบคู่ไปกับการลดความเข้มข้นการปล่อยคาร์บอน (Carbon Intensity) อย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเด็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ บริษัทลูก บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี  (ACE) ซึ่งอยู่ภายใต้ Charter Group นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บางจากฯเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้น การซื้อขายหุ้นเป็นไปตามกฎระเบียบของฝ่ายกำกับ  ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในแง่ของโครงสร้างบริษัทมีคณะกรรมการที่ชัดเจน 15 คน เป็นไปตามแนวทางของปฏิบัติของบจ.ที่ผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนสูงจะมีตัวแทนเข้าเป็นคณะกรรมการบริษัท ตามธรรมเนียมปฏิบัติ กรรมการมีการพูดคุยบริหารจัดการตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา มีการกลั่นกรองการทำงานค่อนข้างชัดเจน

นายชัยวัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่า บางจากฯ ต้องเดินหน้าอย่างเร่งรัดและมีวินัย รักษาความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ซึ่งความเป็นเลิศในทุกด้าน และให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานกับการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ดังนั้น จึงมีการกำหนดกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability’ เพื่อตอบโจทย์ในทุกมิติ พร้อมสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเสียทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้น และสังคมในระยะยาว