HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 49 จุด ด้านดัชนี S&P 500 ปิดเหนือ 6,600 เป็นครั้งแรก Nasdaq ปิดตลาดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 6 ติดต่อกัน รับเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน พร้อมจับตาประชุมเฟด 16-17 ก.ย.นี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 15 กันยายน 2568 ปิดที่ 45,883.45 จุด เพิ่มขึ้น 49.23 จุด หรือ +0.11% แต่ดัชนี S&P 500 ปิดเหนือ 6,600 เป็นครั้งแรก และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 6 ติดต่อกัน
หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนดำเนินไปด้วยดี ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนนี้
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,615.28 จุด เพิ่มขึ้น 30.99 จุด, +0.47%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,348.75 จุด เพิ่มขึ้น 207.65 จุด, +0.94%
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนได้หารือกันเป็นวันที่สองเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรและเส้นตายสำหรับการขาย TikTok โซเชียลมีเดียของจีน
ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ถูกกำหนดเส้นตายในการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 17 กันยายน มิฉะนั้น TikTok จะถูกยกเลิกบริการในสหรัฐฯ
ทรัมป์โพสต์ลง Truth Socialว่าการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่เป็นไปในเชิงบวก และมีการบรรลุข้อตกลง “กับบริษัท ‘แห่งหนึ่ง’ ที่คนรุ่นใหม่ในประเทศของเราอยากช่วยเหลืออย่างมาก” ซึ่งอาจหมายถึง TikTok สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่ทราบเรื่องการเจรจาเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าห้าม TikTok หากจีนยกเลิกข้อเรียกร้องเรื่องการลดภาษีศุลกากรและข้อจำกัดทางเทคโนโลยี โดย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนท์ กล่าวว่าทั้งสองประเทศได้ตกลงกันในกรอบข้อตกลง TikTok ก่อนที่สหรัฐฯ จะออกคำสั่งห้ามในวันที่ 17 กันยายนนี้ ราคาหุ้น Oracle บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ที่มีรายงานว่าเป็นคู่แข่งในการซื้อแอปโซเชียลมีเดีย เพิ่มขึ้น 3.41%
ขณะที่การเจรจาระหว่างสองประเทศยังคงเดินหน้า หน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนระบุว่า Nvidia ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน และจะยังคงสอบสวนผู้ผลิตชิปรายนี้ต่อไป ราคา Nvidiai ลดลง 0.04%สวนทางกับแนวโน้มโดยรวมของ Magnificent Seven
ตลาดยยังได้รับแรงหนุนจาก Tesla ที่เพิ่มขึ้น 3% หลังจากซีอีโอ อีลอน มัสก์ เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการซื้อหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดของเขาในตลาด และเป็นการซื้อครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 นักลงทุนมองว่าการซื้อครั้งนี้เป็นการแสดงความเชื่อมั่นของมัสก์ที่มีต่อบริษัท ซึ่งกำลังพยายามเปลี่ยนทิศทางไปสู่ธุรกิจหุ่นยนต์ ขณะที่การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ากำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น
นักลงทุนกำลังจับตาดูการประชุมนโยบายของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธ( 17 ก.ย.) โดยณ เวลาเที่ยงวันจันทร์ เทรดเดอรคาดการณ์ว่ามีโอกาส 96% ที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จุด และมีโอกาส 4% ที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก
การผ่อนคลายนโยบายการเงินอาจช่วยหนุนตลาดหุ้นอีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อกระแสความสนใจใน AI ยังคงหนุนความเชื่อมั่นของตลาด นักลงทุนยังจับตาว่านายสตีเฟน มิแรน จะเข้าพิธีสาบานตนเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทันเวลาที่จะเข้าร่วมการลงมติของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์นี้หรือไม่
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันจันทร์ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มกลาโหมช่วยหนุนดัชนีหลักก่อนการประชุมสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 557.16 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด, +0.42%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,277.03 จุด ลดลง 6.26 จุด, -0.067%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,896.93 จุด เพิ่มขึ้น 71.69 จุด, +0.92%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,748.86 จุด เพิ่มขึ้น 50.71 จุด, +0.21%
ดัชนีสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วทั้งภูมิภาคเพิ่มขึ้น 1.9%
หุ้นแฟชั่นชื่อดัง LVMH และ L’Oreal พุ่งขึ้น 2.7% และ 1.9% ตามลำดับ ขณะที่ Kering เพิ่มขึ้น 5.8% หุ้น Brunello Cucinelli เพิ่มขึ้น 5.6% หลังจากที่ J.P. Morgan เริ่มให้คำแนะนำการลงทุนหุ้นด้วย “overweight”
หุ้นสินค้าหรูของฝรั่งเศสตกเป็นเป้าความสนใจหลังจากการเสียชีวิตของนักออกแบบ Giorgio Armani ซึ่งได้ระบุแนวทางเกี่ยวกับการขายแบรนด์แฟชั่นของเขาไว้ในพินัยกรรม โดยให้ความสำคัญกับ LVMH, L’Oreal และผู้นำด้านแว่นตาอย่าง EssilorLuxottica เป็นหลัก
ฟิโอนา ซินคอตตา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ City Index กล่าวว่า Armani คือหนึ่งในแบรนด์หรูเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และหากนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ก็จะเป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นอย่างมากต่อภาคส่วนนี้โดยรวม
ดัชนีการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศของยุโรปยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพุ่งขึ้น 1.74% สู่ระดับสูงสุดใหม่ ดัชนีเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
นักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นป้องกันประเทศมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลยุโรปเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนาโตและลดการพึ่งพาสหรัฐอเมริกา
หุ้นผู้ผลิตชิปยุโรปก็ช่วยหนุนดัชนีหลักเช่นกัน โดย BESI, ASML และ ASMI เพิ่มขึ้นระหว่าง 5.6% ถึง 6%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวสูงขึ้นโดยรวมจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25%ในวันพุธ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางอาจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปีนี้
ธนาคารกลางหลายแห่งจะประกาศการตัดสินใจด้านนโยบายในสัปดาห์นี้ รวมถึงธนาคารกลางในสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และแคนาดา
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสินเชื่อรัฐบาลฝรั่งเศสของ Fitch เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนี CAC 40 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ราคาพันธบัตรในประเทศทรงตัว
หุ้น UBS เพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกำลังพิจารณาย้ายฐานไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เกี่ยวกับข้อกำหนดด้านเงินทุนใหม่
หุ้น AstraZeneca ลดลง 3.2% หลังจากที่ Handelsbanken ลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทยา และสำนักข่าว Reuters รายงานว่าบริษัทได้ระงับการลงทุนครั้งใหญ่ในตลาดภายในประเทศ
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 63.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
