หุ้นส่งออกจุก!เงินบาทต่ำสุด 4 ปีแตะ 31.80 ธปท.ยอมรับแข็งนำภูมิภาค หาทางแก้

HoonSmart.com>>หุ้นส่งออกเหนื่อย! บริษัทแบกหนี้ตปท.สูงยิ้ม ฟันด์โฟลว์เข้าหุ้นไทย จากเงินบาทผิดปกติ เห็นระดับ 31 บาทจนได้ แตะแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปีที่ 31.80 แรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯหนุนโอกาสเริ่มวัฎจักรลดดอกเบี้ยของเฟด เสียงบางส่วนในตลาดเริ่มเก็งอาจจะเห็นกดลงพรวด 0.50% เดือนก.ย. รวมถึงราคาทองคำในตลาดโลกสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ สัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ ด้านธปท.รับแข็งนำภูมิภาค เล็งหาช่องลดผลกระทบจากราคาทอง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า วันที่ 8  ก.ย. 2568 เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปีที่ 31.80 ก่อนจะกลับไปเคลื่อนไหวที่ 31.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ (16.15 น.) เงินบาทแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด และหนุนโอกาสการเริ่มวัฎจักรการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับ เสียงบางส่วนในตลาดเริ่มมองความเป็นไปได้ที่อาจจะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงมากกว่า 0.25% ในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกที่ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ ก็เป็นปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน

ในระยะสั้น มองว่า เงินบาทยังมีโอกาสกลับไปทดสอบแนว 31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ อีกครั้ง

ส่วนกรอบสัปดาห์นี้มองไว้ที่ 31.80-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ (คาดการณ์โดย KBANK) ต้องรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายนับถอยหลังสู่กำหนดการประชุมเฟด 16-17 ก.ย. นี้

ทางด้านน.ส.พิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 7% อยู่ในกลุ่มนำเงินสกุลเงินภูมิภาค โดยการเคลื่อนไหวแข็งค่าของสกุลเงินภูมิภาค และค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ สหรัฐฯ จากการที่ผู้ร่วมตลาดคาดการณ์ว่าการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ  มีแนวโน้มจะผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่เงินบาทได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาดการเงินยังมีความไม่แน่นอนสูง โดย ธปท. ยังคงติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และเข้าดูแลความผันผวนของค่าเงิน เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการในการลดผลกระทบจากราคาทองคำต่อค่าเงินบาท

“ภาคเอกชนควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงิน”น.ส.พิมพ์พันธ์ กล่าว

สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ นับว่าผิดปกติ สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่อ่อนแอ  ซึ่งเงินบาทแข็งมาก กระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก  เช่น บริษัทอิเล็กทรอกนิกส์ ขณะเดียวกันกลับเป็นผลดีต่อบริษัทที่มีภาระหนี้ต่างประเทศสูง รวมถึงตลาดหุ้นที่คาดว่าจะดึงดูดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย -1,412.21 ล้านบาท  แต่ซื้อตราสารหนี้ไทยจำนวน 4,145 ล้านบาท