ดาวโจนส์ปิดลบ 152 จุด จับตาประธานเฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 152 จุด หุ้น Walmart ร่วงผิดหวังผลประกอบการ ด้านข้อมูลยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานสูงเกินคาด จับตา “ประธานเฟด” ส่งสัญญาณดอกเบี้ยค่ำนี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ ด้าน “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 44,785.50 จุด ลดลง 152.81 จุด หรือ -0.34% แต่ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันหลังจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Walmart และข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ขณะที่มุ่งความสนใจไปที่คำกล่าวของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในการประชุมประจำปีที่แจ็คสัน โฮล

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,370.17 จุด ลดลง 25.61 จุด, -0.40%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,100.31 จุด ลดลง 72.55 จุด, -0.34%

หุ้นของ Walmart ร่วงลงมากกว่า 4% หลังจากที่บริษัทค้าปลีกรายนี้ทำรายได้ไตรมาสต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 อย่างไรก็ตาม บริษัทรายงานยอดขายที่สูงกว่าประมาณการ

ในด้านตลาดแรงงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 สิงหาคม เพิ่มขึ้นเป็น 235,000 ราย เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 225,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็นเป็น 1.97 ล้านราย สูงกว่า 1.96 ล้านรายที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด พาวเวลล์ ในวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.85% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10เพิ่มขึ้นเป็น 4.33% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.92%

นักลงทุนรอฟังปาฐกถาจากพาวเวลล์ในงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลาง
สหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งอาจจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่อาจช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อได้

ความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยที่ริบหรี่ลงส่งผลต่อความเชื่อมั่น หลังจากรายงานการประชุมของเฟดในเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ว่าข้อกังวลหลักของผู้กำหนดนโยบายอยู่ที่ภาวะเงินเฟ้อที่หนืดมากกว่าตลาดแรงงานที่ซบเซา และส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่ายังเร็วเกินไปที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แต่มีเสียงแตกเพิ่มขึ้นในเฟด โดยคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และมิเชลล์ โบว์แมน ผู้ว่าการเฟด คัดค้านการคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สมาชิกคณะกรรมการเฟดสองคนนี้ไม่เห็นด้วยนับตั้งแต่ปี 1993

ขณะเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายหลายคนระบุในสัปดาห์นี้ว่า ไม่มองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า มีโอกาสเกือบ 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนกันยายน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น กิจกรรมการผลิตก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือนสิงหาคม ผลสำรวจดัชนี PMI รวมภาคบริการและภาคการผลิต ของ S&P Global เพิ่มขึ้นเป็น 55.4 จาก 55.1 ในเดือนกรกฎาคม

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 4.01 ล้านยูนิตในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.92 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านเพิ่มขึ้น 0.8%

Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ลดลง 0.1% ในเดือนกรกฎาคม สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนมิถุนายน

หุ้น Coty ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ร่วงลง 21.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ อ่อนแอลง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสัมมนาแจ็คสันโฮลของธนาคารกลางสหรัฐฯ และสหรัฐฯกับสหภาพยุโรปบรรลุกรอบข้อตกลงการค้าตามที่ตกลงกันเมื่อเดือนที่แล้ว

สหภาพยุโรประบุว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ ที่ลดลงจะมีผลบังคับใช้ย้อนหลัง เนื่องจากสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงในรายละเอียดเมื่อเดือนที่แล้ว

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่รวมถึงไวน์และสุรา แต่ไม่ได้ปิดโอกาสการลดภาษีดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หุ้นรถยนต์ยุโรปลดลง 0.4%

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 559.07 จุด ลดลง 0.02 จุด, -0.00%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,309.20 จุด เพิ่มขึ้น 21.06 จุด, +0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,938.29 จุด ลดลง 34.74 จุด, -0.44%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,293.34 จุด เพิ่มขึ้น 16.37 จุด, +0.07%

หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ เช่น ค้าปลีกและสินค้าส่วนบุคคล ปรับตัวลดลงหลังจากปรับตัวขึ้นในวันพุธ

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากเผชิญแรงกดดันในสัปดาห์นี้จากความคาดหวังเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย

ธนาคารกลางทั่วโลกจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของเฟด และความสนใจของตลาดมุ่งไปที่คำกล่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เพื่อหาสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์คาดว่า พาวเวลล์จะไม่บ่งชี้การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่ตลาดได้ประเมินราคาการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%แล้ว หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ดูไม่ดีในช่วงต้นเดือนนี้

ข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นถึงการลดลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเขตยูโรและการเร่งตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในเดือนสิงหาคม

ด้านสถานการณ์ยูเครนในขณะเดียวกัน รอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เรียกร้องให้ยูเครนยอมสละพื้นที่ดอนบาสทางตะวันออกทั้งหมด ยกเลิกความตั้งใจที่จะเข้าร่วม NATO คงความเป็นกลาง และไม่ให้กองกำลังตะวันตกเข้ามาในประเทศ

หุ้น Aegon บริษัทประกันภัยของเนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้น 7.6% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี และขึ้นไปสูงกว่า STOXX 600 หลังจากประกาศเพิ่มการซื้อหุ้นคืนเป็นสองเท่าเป็น 400 ล้านยูโร (466 ล้านดอลลาร์) และประกาศแผนการย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 63.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 67.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล