OR เล็งผลงาน Q3/68 ดีขึ้นตามราคาน้ำมัน ครึ่งปีหลังยอดขายกัมพูชาหด

HoonSmart.com>>”ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก”(OR) เล็งผลงานไตรมาส 3/68 ดีกว่าไตรมาส 2 จากราคาน้ำมันดีขึ้น เป้า EBITDA ปี 68 ที่ 2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปี 67 ส่วนยอดขายกัมพูชาคาดลดลงในครึ่งปีหลัง เหตุชายแดนไทย-กัมพูชากระทบ OR 3-5% ขณะที่ประเทศอื่นทั้งยอดขาย-กำไรยังดีอยู่

นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) กล่าวถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า บริษัทฯได้คาดการณ์ปี 2568 EBITDA ธุรกิจในกัมพูชาเติบโต 5% ซึ่งครึ่งปีแรกก็ทำผลงานได้ดี แต่หลังจากที่มีการปะทะกันวอลุ่มก็ลดลง อันเป็นผลจากกระแสชาตินิยม ซึ่งสินค้าแบรนด์ไทยยอดขายก็ลดลงไปด้วย อย่างไรก็ดี ธุรกิจในกัมพูชา ทั้งในส่วนของธุรกิจน้ำมัน, ค้าปลีก และ Cafe Amazon เทียบกับไทยถือว่าไม่มาก โดยไตรมาส 2 รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังน้อย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงปลายไตรมาส 2 ดังนั้นครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าจะได้รับผลกระทบทำให้ยอดขายลดลงในกัมพูชา

“ดีลเลอร์บางรายออกมาขอ”รีแบรนด์”ไปใช้แบรนด์ Local แต่ก็มีจำนวนไม่เยอะ เพื่อลดถอนกระแสธุรกิจของเขา โดยธุรกิจในกัมพูชาทางเราจะทำเอง 10% และที่เหลือก็จะให้เขาทำในรูปดีลเลอร์ ครึ่งปีหลังคาดผลกระทบทำให้ยอดขายลดลง อย่างไรก็ดี การ”รีแบรนด์”ถ้าไม่ผิดเงื่อนไขก็สามารถทำได้ แต่ถ้าพึ่งเปิดและจะไปรีแบรนด์ ก็ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย วันนี้เราเฝ้าดูเหตุการณ์ และคาดหวังสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน

นางสาวปิติรัตน์ รัตนโชติ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ OR กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา จะมีผลกระทบต่อ OR ประมาณ 3-5% ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังไปต่อได้ทั้งวอลุ่ม และกำไรก็ยังดีอยู่ ทั้งนี้ สถานีให้บริการน้ำมันในกัมพูชาจะมีสัดส่วนสาขาใน-นอกปั๊มเป็น 50 : 50 เพราะการเปิดสาขาจะดู Location เป็นหลัก ซึ่งใช้ระบบดูที่ไม่ซับซ้อน และขยายสาขาด้วยพื้นที่เล็กหน่อย เพื่อคืนทุนได้ไว

“GDP ปี 2568 ได้รับการปรับดีขึ้นมาที่ 1.8-2.3% ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2% หลังชัดเจนภาษีสหรัฐฯที่ไทยได้อัตรา 19% ทำให้ OR มีปริมาณขายในประเทศเติบโต 1-2% สอดคล้องกับ GDP ไทย โดย Key Driver หลักมาจากการใช้น้ำมันเจ็ท ในส่วนเพื่อนบ้าน กัมพูชาเป็นประเทศหลักที่มีการเติบโต แต่พอมาเจอปัญหาไทย-กัมพูชา ปริมาณขายก็ลดลงในครึ่งปีหลัง ผลงานอ่อนลง แต่เชื่อเป็นแค่ช่วงสั้น และจะกลับมาเป้นเหมือนเดิม”

สำหรับเป้าหมาย EBITDA ปี 2568 ของ OR จะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มี EBITDA 1.7 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้พยายามทำ Core Business ให้ไปต่อได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

“ผลงานในไตรมาส 3/2568 รายได้จากธุรกิจน้ำมันคงจะผันผวนตามราคาน้ำมัน ซึ่งจนถึง 20 ส.ค.ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล สูงขึ้นกว่าไตรมาส 2/2568 ที่กว่า 60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ดังนั้นรายได้ในไตรมาส 3 น่าจะสูงขึ้น ส่วนทั้งปี 2568 ราคาน้ำมันน่าจะต่ำกว่าปี 2567 แต่วอลุ่มน่าจะเพิ่มขึ้น 1-2% ได้…ปีนี้คาดราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 60-80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ซึ่งมองราคาน้ำมันไม่น่าจะผันผวนมาก”

สิ้นไตรมาส 2/2568 ธุรกิจในต่างประเทศ OR มีสถานีให้บริการน้ำมัน (ปั๊ม) PTT มี 420 สถานี โดยอยู่ในกัมพูชา 191 สถานี ฟิลิปปินส์ 170 สถานนี และลาว 59 สถานี สาขาร้าน Café Amazon รวม 397 สาขา ในกัมพูชา 259 สาขา ฟิลิปปินส์ 7 สาขา ลาว 106 สาขา และเวียดนาม 25 สาขา ส่วนร้านสะดวกซื้อมี 79 สาขา ในกัมพูชา 77 สาขา และลาว 2 สาขา โดยยอดขายน้ำมันในต่างประเทศครึ่งแรกปี 2568 อยู่ที่ 1,164 ล้านลิตร

ทั้งนี้ OR มีสถานีให้บริการน้ำมันทั้งสิ้น 2,348 สถานี ทั้งในและต่างประเทศ Café Amazon มีทั้งสิ้น 4,547 สาขา ร้านสะดวกซื้อ 2,357 สาขา