HoonSmart.com>>”ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น” (ITC) โตต่อเนื่อง ไตรมาส 2/68 กวาดยอดขาย 4,473 ล้านบาท เติบโต 5.3% จากไตรมาสแรก ปริมาณขายเติบโต 6.9% ขับเคลื่อนด้วยคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก กำไรขั้นต้น 1,120 ล้านบาท โต 9.6% กำไรสุทธิปรับปรุงอยู่ที่ 803 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.40 บาท หุ้น ITC มีศักยภาพในดัชนี SET50 ที่จ่ายปันผลสูงในระดับดีต่อเนื่อง
บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 695.96 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.23 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 1,009.54 ล้านบาท หรือ 0.34 บาทต่อหุ้น มียอดขาย 4,473 ล้านบาทเติบโต 5.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เติบโต 6.9% ขับเคลื่อนด้วยคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก กำไรขั้นต้น 1,120 ล้านบาท เติบโต 9.6% กำไรสุทธิปรับปรุงอยู่ที่ 803 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีแรก ทำได้ 1,372.82 ล้านบาทหรือ 0.46 บาทต่อหุ้น ลดลงจากกำไรสุทธิ 1,830.59 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.61 บาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
นายรอย ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกสะท้อนถึงรากฐานการดำเนินธุรกิจที่มีความมั่นคงและความเข้มแข็ง จากการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว ตลอดจนความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง ส่งผลให้ปริมาณการขายเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนถึงความไว้วางใจที่ลูกค้าทั่วโลก แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ และการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
สำหรับครึ่งปีแรก ITC มียอดขาย 8,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 12.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 2,141 ล้านบาท และกำไรสุทธิปรับปรุง 1,597 ล้านบาท ผลมาจากความสำเร็จของโปรเจกต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการมูลค่า 56 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ และการส่งออกสินค้าล็อตแรกให้กับแบรนด์ผู้นำเข้ารายใหม่ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ตอกย้ำจุดแข็งที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งของ ITC ซึ่งครอบคลุมการมีฐานลูกค้าทั่วโลกที่เติบโตต่อเนื่อง ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบพรีเมียมคุณภาพสูง การขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้ ITC เป็นผู้ผลิตที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อีกทั้ง มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ 1,635 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“เรายังมุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์เร่งการเติบโตผ่านโปรเจคต์เทลวินด์ (Project Tailwind) เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจ ผ่านการเพิ่มประสิทธิผลของกระบวนการผลิต การจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ ITC ยังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการพิจารณาความร่วมมือทางธุรกิจ ผ่านการควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขยายความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2573 ได้ นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานให้ได้ 50 ล้านเหรียญตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป” นายรอย ชาน กล่าวเสริม
ทั้งนี้ บริษัทฯยังได้เตรียมแผนการรับมือเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนกลยุทธ์เรื่อง cost-sharing และขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีนำเข้าต่ำอีกด้วย
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2568 หุ้นละ 0.40 บาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 14 ส.ค. 2568 และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 ส.ค.นี้ กำหนดจ่ายเงินวันที่ 27 ส.ค. 2568 ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 2.72% เทียบกับราคาหุ้น ITC ปิดที่ 14.70 บาท ลดลง 0.40 บาทหรือ-2.65% วันที่ 31 ก.ค.2568
