HoonSmart.com>> 3 โบรกฯส่องหุ้นสอดรับผู้ว่าธปท.คนใหม่ “วิทัย รัตนากร” แนวทางนโยบายการเงินผ่อนคลาย “แก้หนี้-ลดดอกเบี้ย-เสริมสภาพคล่อง” หนุนกลุ่มส่งออก, ไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, เช่าซื้อ, REITs, Infra Fund, อสังหาฯ และกลุ่มหนี้สูง เชียร์ CPALL, BJC, CRC, HMPRO, AP, SPALI, ITC, TU, MTC, TIDLOR, BAM, ADVANC, EGCO, KTC, LH, GULF, WHAIR, FTREIT, 3BBIF
บล.พาย ระบุ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เคาะ “วิทัย รัตนากร” ขึ้นแท่นผู้ว่า ธปท.คนใหม่ เริ่มงาน 1 ต.ค.นี้ หนึ่งในนโยบายหลักที่น่าจับตาคือ “การแก้หนี้ครัวเรือน” ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ ลดดอกเบี้ยเงินกู้, เน้นตัดเงินต้นมากกว่าดอกเบี้ย และใช้มาตรการร่วมกับหน่วยงานอื่นเพื่อเสริมสภาพคล่อง
การลดดอกเบี้ยอาจเป็นสัญญาณบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงินในเชิงนโยบาย แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจนำไปสู่การควบคุมดอกเบี้ยของกลุ่ม Non-Bank มากขึ้น ซึ่งต้องจับตาว่าจะกระทบรายได้ของกลุ่มนี้หรือไม่
ทั้งนี้ หุ้น Non-Bank ก็ปรับขึ้นมาแล้วราว 11% จากจุดต่ำสุด อาจมีการสะท้อนข่าวเชิงบวกไปบางส่วนแล้ว จึงอาจไม่ได้รับอานิสงส์เพิ่มมากนัก
แต่หากนโยบายสามารถคลายปัญหาหนี้ครัวเรือนได้จริง หุ้นที่อิงกับ “การบริโภคภายในประเทศ” อย่าง CPALL, BJC, CRC, HMPRO รวมถึงอสังหาอย่าง AP, SPALI จะได้ประโยชน์โดยตรง
นอกจากนี้ หากนโยบายการเงินของ ธปท.มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าในระยะถัดไป ซึ่งจะหนุนหุ้นส่งออก เช่น ITC และ TU ให้ได้อานิสงส์ตามไปด้วย
บล.ทิสโก้ มองนโยบายการเงินในระยะข้างหน้ามีโอกาสผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยังคงมุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลง 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 2568 และอีก 2 ครั้งในปี 2569 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.25% และ 0.75% ตามลำดับ
พร้อมแนะนำ “Selective Buy” หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย และหุ้นปันผล ชอบ MTC, TIDLOR, BAM, ADVANC, EGCO, GPSC, AP, SIRI, MC
บล.กรุงศรี ระบุการผ่านช่วงรอยต่อแต่งตั้งผู้ว่าธปท.ท่านใหม่ หลังจากนี้คาดนำมาสู่การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย อิง Real Yield (ดอกเบี้ยนโยบาย – เงินเฟ้อ) ที่เป็นบวกต่อเนื่อง 26 เดือน, เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนจากมาตรการการค้าสหรัฐฯ
ฝ่ายวิจัย ประเมินน่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2 ครั้ง โดยมุมมองดอกเบี้ยของตลาด ผ่านตลาดพันธบัตรล่าสุด TH Bond Yield 1ปี อยู่ที่ 1.427%, ดอกบี้ยนโยบาย 1.75% บ่งชี้ลดลงมากกว่า 1 ครั้ง และทุก ๆ การปรับลดดอกเบี้ยลง -25 bps จะบวกต่อ SET ราว 50-55 จุด หนุนหุ้นในกลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ High Yield (สื่อสาร, REITs, Infra Fund และอสังหา) หนี้สูง
กลยุทธ์การลงทุน เน้นหุ้นได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลงที่มีปัจจัยเสริม
กลุ่มโรงไฟฟ้า (เงินบาทแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ ต.ค. 2567) และ ก๊าซ NYMEX -6.7% เน้น GULF
กลุ่ม High Yield สื่อสาร เน้น ADVANC เป็น Big Cap ที่สลับมานำตลาด
กลุ่ม อสังหาฯ ที่ยัง Laggard แนะ LH, SPALI
หุ้น REITS และ Infra Fund (Real Yield มากกว่า 5%, สภาพคล่องสูง) แนะ WHAIR, FTREIT, 3BBIF
กลุ่มหนี้สูง เน้นกลุ่ม Laggard หุ้น SET50 อาทิ CPALL, KTC
