ธ.ไทยเครดิต โชว์ครึ่งปีกำไร 1,828 ลบ. โตแรง 44%

HoonSmart.com >> ธ.ไทยเครดิต โชว์ครึ่งปี’ 68 กำไร 1,828.2 ล้านบ.  โตกว่า  44% มุ่งเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบอย่างต่อเนื่องและเท่าเทียม

รอยย์ ออกุสตินัส กุนารา

 

ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิ  925.2 ล้านบาท เติบโตกว่า 12.8 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2568 กำไร1,828.2 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น  44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ Q2/68 มีกำไร/หุ้น  0.75 บาท และครึ่งปีแรก 1.48 บาท/หุ้น สะท้อนศักยภาพการเติบโตภายใต้การบริหารงานที่ยังคงให้ความสำคัญกับความรอบคอบเพื่อรองรับสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตมาจาก การรักษาการขยายตัวของยอดเงินให้สินเชื่อรวม ซึ่งอยู่ที่ 171,661.8 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 เพิ่มขึ้น 13 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธนาคารสามารถเพิ่มปริมาณสินเชื่อได้ในกลุ่มหลักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Micro SME (MSME) เติบโต 14.3% , สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกันขยายตัว  13.3% และสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น  66.6%

นอกจากนี้ ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นยังปรับตัวลดลง 36.7%
จากปีก่อน เป็นผลมาจากการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่ออย่างระมัดระวังของธนา
คาร รวมถึงมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มีส่วนช่วยให้คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น

แม้อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) จะลดลงจากปีก่อน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 7.6%

ทั้งนี้ ในด้านการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารยังบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (Gross NPLsratio) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเท่ากับร้อยละ 4.3

ขณะเดียวกัน อัตราส่วนการกันสำรองเพื่อครอบคลุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL
Coverage Ratio) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 154.4 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างระมัดระวัง

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT)  กล่าวว่า ธนาคาร ฯ ยังเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับความรอบคอบ และมีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด โดยปี 2568 มั่นใจการตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระดับเลขสองหลัก

พร้อมควบคุมอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPLs) ให้อยู่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ผ่านความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้า เคียงข้างเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้เติบโต อีกทั้งเป็นการสร้างความเท่าเทียมทางการเงิน”ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ที่ผ่านมา

ธนาคารไทยเครดิตได้เปิดตัวสาขาเงินฝากแห่งใหม่บนถนนนิมมานเหมินท์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรุกขยายตลาดในหัวเมืองสำคัญของภาคเหนือ และรองรับการเติบโตทางธุรกิจในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของภูมิภาคนี้

ธนาคารยังเดินหน้าขยายบริการทางการเงินอย่างครบวงจรทั้งการรับฝากเงิน การให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย และการให้คำปรึกษาทางการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินที่
สาขาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

นายรอยย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยึดมั่นในนโยบายส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า ผ่านการให้บริการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นบริการที่ธนาคารนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันธนาคารได้ให้สินเชื่อแก่พ่อค้าแม่ค้าแล้วมากกว่า 250,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า

ธนาคารยังได้ร่วมเปิดตัว ‘Micro Pay e-Wallet โฉมใหม่’ ภายใต้แนวคิด
“Customer-Centric & Inclusion-First” เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อเป็นตัวช่วยให้การค้าขายมีความสะดวก รวดเร็วและยังช่วยบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งสร้างให้เกิดพฤติกรรมทางการเงินในระบบดิจิทัล สร้างฐานลูกค้าใหม่ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่อเนื่อง
สู่การวางรากฐานทางวินัยการเงินของผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตในระบบเศรษฐกิจอย่างมั่นคง